อพท.- สกสว.ประสานภาคีเครือข่ายและชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ประกาศความสำเร็จโครงการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล ชูศักยภาพ 6 เส้นทางท่องเที่ยว บูมท่องเที่ยวสีเขียว ต้นแบบ BCG Model หวังปักหมุดขึ้นชั้น Green Destination Top 100 และการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษในอนาคต ด้านจังหวัดสมุทรปราการเด้งรับลูกหนุนเต็มสูบพร้อมขยายผลพัฒนาคลองคุ้งบางกะเจ้าสู่เวนิส
นางสาววัชรี ชูรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนในพื้นที่ ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก สกสว.ในโครงการดังกล่าว อพท. และ สกสว.ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนา ยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนสู่ตลาดท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจากระดับชุมชนสู่การออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน รวม 6 เส้นทาง ใน 6 ตำบล ด้วยการสร้างจุดเด่น ดึงอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชนมาต่อยอดเป็นจุดขายสู่การเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง
ทั้งนี้ อพท.ได้นำมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ CBT Thailand มาใช้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการและการออกแบบเส้นทาง การออกแบบผลิตภัณฑ์และการทำตลาดการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มีเป้าหมายสูงสุดคือยกระดับให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นพื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เชิงวิถีชีวิตและเชิงนิเวศ ตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC และพร้อมผลักดันให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท.ในลำดับต่อไป รวมถึงการผลักดันให้เข้าสู่การได้รับเลือกเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ Green Destinations Top 100 ที่มีระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนโยบายของรัฐบาลภายใต้ BCG โมเดล
เปิด 6 เส้นทาง อัตลักษณ์วิถีชุมชน
ทั้งนี้ 6 เส้นทางที่ได้รับการพัฒนา ได้แก่ 1. เส้นทางสาย Cool ไปกับพื้นที่สีเขียวเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า 2. เส้นทางสายชิมลิ้มรสหลากหลาย สไตล์คุ้งบางกะเจ้า 3. เส้นทางสายธรรมะศรัทธาที่คุ้งบางกะเจ้า 4. เส้นทางสาย Learn&Play สัมผัสเสน่ห์คุ้งบางกะเจ้า 5. เส้นทางสายสุขภาพดีที่คุ้งบางกะเจ้า 6. เส้นทางสายตามรอยศาสตร์พระราชาแห่งคุ้งบางกะเจ้า นอกจากนั้นยังได้กำหนดเทศกาลที่คงอัตลักษณ์และวิถีของชุมชนบางกะเจ้าใน 2 เทศกาลประจำปี ได้แก่ เทศกาลพิธีแห่หงส์-ธงตะขาบ และ พิธีตักบาตรน้ำผึ้ง ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการนำเกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ CBT Thailand ของ อพท. เข้าไปพัฒนา อบรมให้แก่ชุมชน ทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าได้รับรางวัลและมาตรฐานต่างๆ เช่น รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (กินรี) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รางวัล MICE เพื่อชุมชน ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สามารถสร้างการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรูปแบบการท่องเที่ยวมีทั้ง One Day Trip และการท่องเที่ยวแบบพักแรมในโฮมสเตย์ของชุมชน
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตอบ BCG Model
ปัจจุบัน อพท.ได้ร่วมกับชุมชนเตรียมความพร้อมการให้บริการ ให้มีความสามารถในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการดูแล และให้บริการอย่างมีคุณภาพ บนฐานของความสมดุล ในการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และได้นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยการนำวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมเข้ามาส่งเสริม สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ในรูปแบบการเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีความเข้มแข็งและยั่งยืน
พัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า สกสว. ในฐานะเป็นหน่วยงานการส่งเสริมงานวิจัยเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับ อพท.ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล ถือเป็น 1 ใน 6 ของการพัฒนา OUR Khung Bang Kachao ภายใต้มูลนิธิชัยพัฒนา จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวคุณภาพ และยกระดับสินค้าและบริการให้ชุมชนและภาคีเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่ความยั่งยืน
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้แก่ 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบางกะเจ้า ชุมชนบางกระสอบ ชุมชนบางยอ ชุมชนทรงคนอง ชุมชนบางน้ำผึ้ง และชุมชนบางกอบัว ส่งผลให้ปัจจุบันเส้นทางท่องเที่ยวในคุ้งบางกะเจ้าได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และกระจายอย่างทั่วถึงเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เกิดการฟื้นฟูอนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรม และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้พื้นที่แห่งนี้สามารถเป็นแหล่งผลิตโอโซนที่สำคัญใกล้เมือง ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนต่อไป
“สมุทรปราการ” เล็งขยายคุ้งบางกะเจ้าสู่เมืองเวนิส
นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษคุ้งบางกะเจ้าขึ้น โดยมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน มีเป้าหมายพัฒนาให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นพื้นที่ต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนงานและกลยุทธ์การพัฒนาของจังหวัดสมุทรปราการ อย่างไรก็ตาม จากการที่จังหวัดได้มีการฟื้นฟูคลองต่างๆ ให้มีการท่องเที่ยวทางน้ำจึงมีแนวคิดที่จะขยายผลโดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 6 ตำบลที่ครอบคลุมพื้นที่บางกะเจ้านำคลองที่มีจำนวนมากมาพัฒนาให้เป็นเมืองเวนิส
“ระยะอันใกล้ก็คงจะต้องประสานมือกันที่จะร่วมกันคิด ร่วมกันทำให้บางกะเจ้าเป็นเวนิสคุ้งบางกะเจ้า ซึ่งทางจังหวัดเองได้รับความเห็นมาแล้วและจะนำเสนอสู่แผนพัฒนาจังหวัดเพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวให้มากขึ้น” นายชัยพจน์กล่าว
สัมผัสอัตลักษณ์ชุมชนท่องเที่ยว
นายสำเนาว์ รัศมิทัศน์ ประธานชมรมเครือข่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนคุ้งบางกะเจ้า กล่าวว่า จากการเข้ามาพัฒนาของ อพท. และ สกสว. ที่เริ่มจากการประเมินศักยภาพของชุมชน จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว จึงพบว่าชุมชนในคุ้งบางกะเจ้ามีฐานทุนทางทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนทั้งในด้านการประกอบอาชีพทางการเกษตร และสามารถกำหนดเป็นเส้นทางกิจกรรมการท่องเที่ยวย้อนยุควิถีคลอง วิถีชีวิต ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนอื่นๆ ได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ อพท.ได้เข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชน ทั้งการพัฒนา นักสื่อความหมาย การพัฒนาต่อยอดเป็นกิจกรรมประกอบอาหารพื้นถิ่น การจัดจานอาหารในเมนูเมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ ซึ่งจะเป็นไฮไลต์ของชุมชนบางกอบัว รวมถึงกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมจากวัสดุธรรมชาติ เช่น เปลือกลูกจาก ใบหูกวาง โดยนำมาต้มเพื่อให้ได้สีธรรมชาติ รวมถึงการจัดกิจกรรมล่องเรือชมวิถีคลอง ที่จะพานักท่องเที่ยวพายเรือ เรียนรู้ธรรมชาติ พันธุ์ไม้หลากหลาย เช่น จาก ลำพูน ลำแพ จึงตอบได้ว่า แนวทางการทำงานของ อพท.สามารถทำให้คุณภาพชีวิตของคนในคุ้งบางกะเจ้าดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และนำไปสู่ความยั่งยืนต่อไป