ราชาเฟอร์รี่จับมือ “SABUY” พัฒนาธุรกิจเสริมแกร่งเครือข่ายการค้าและระบบโลจิสติกส์ครอบคลุม 3 เกาะใหญ่ จ.สุราษฎร์ฯ
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) (RP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) พัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นพันธมิตรทางการค้าและคู่ค้าในการส่งเสริมการขยายธุรกิจซึ่งกันและกัน ให้ครอบคลุมพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี นับเป็นการต่อยอดจุดแข็งที่มี เพิ่มเครือข่ายการค้าภายใต้เทคโนโลยีของ “สบาย กรุ๊ป” แบบครบวงจร
การร่วมมือครั้งนี้ทางบริษัทฯ เห็นโอกาสในการต่อยอดบริการขนส่งโลจิสติกส์ที่มีอยู่ และยังเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายทางเทคโนโลยีของ Subuy Group โดยมีระบบ Ecosystem ที่ครอบคลุมและครบวงจร สอดคล้องตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ
“การร่วมมือกันครั้งนี้ เราเห็นถึงโอกาสในการร่วมมือพัฒนาธุรกิจกับทาง Sabuy Group โดยผสานจุดแข็งของราชาเฟอร์รี่ที่มีศักยภาพในการขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งมีเครือข่ายการค้าและคู่ค้าครอบคลุมทั้ง 3 เกาะใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้จากนี้ไป โดยนำสินค้าและบริการของเครือสบาย ไม่ว่าจะเป็นตู้เวนดิ้ง ตู้เติมเงิน ตู้น้ำมัน ช่องทางการชำระเงินออนไลน์ ประกันภัยผู้โดยสาร และ ประกันภัยความเสี่ยงภัยต่างๆ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่จะต่อยอดกันต่อไปในอนาคต เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงมากขึ้น และได้รับประโยชน์ในการใช้สินค้าและบริการได้ตลอดเวลา”
นอกจากนี้ ยังจับมือร่วมเป็นพันธมิตรในการเป็นจุดรับสินค้าและพัสดุ (Drop Off) ในพื้นที่ท่าเรือเทียบเรือ และขยายเครือข่ายจุดรับสินค้าและพัสดุไปยังเครือข่ายการค้าของบริษัทฯ ที่มีอยู่บนเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะพะลวย เพื่อเชื่อมต่อจุดรับสินค้าและพัสดุให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้า
นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด กล่าวว่า SABUY ร่วมมือกับ ราชาเฟอร์รี่ ต่อยอดการบริการให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ SABUY ได้ส่งมอบสินค้าและการบริการในเครือให้แก่ลูกค้าที่อยู่ตามเกาะต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยของคนเดินทางของผู้บริโภค ด้วยประกันการคุ้มครองผู้เดินทางระหว่างท่าเรือไปยังเกาะต่างๆ อีกด้วย นับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ที่จะช่วยยกระดับชีวิตให้กับการค้าและบริการที่ครอบคลุมทั้ง 3 เกาะใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย