ผู้จัดการรายวัน 360 - ไมเนอร์ฟู้ดเสริมแกร่ง ดีลิเวอรีดันแอปฯ 1112 ยอดดาวน์โหลดทะลุุ 2.5 ล้านราย ส่งผลสัดส่วนรายได้จากดีลิเวอรีเพิ่มเป็น 30% จากเดิมแค่ 15% ล่าสุดออกแคมเปญเด็ดหวังดันยอดดีลิเวอรีโต 30%
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไมเนอร์ ฟู้ด ในฐานะผู้นำธุรกิจที่ให้บริการด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยทั้งที่ร้านและแบบส่งตรงถึงบ้าน สำหรับธุรกิจ 1112 ดีลิเวอรี ถือเป็นแพลตฟอร์มของไมเนอร์ ฟู้ด ที่สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการสั่งอาหารในรูปแบบดีลิเวอรี
โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้รวบรวมร้านอาหารยอดฮิตภายใต้บริการ 1112 ดีลิเวอรี แบ่งเป็น 7 ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน, ซิซซ์เล่อร์, เบอร์เกอร์ คิง, สเวนเซ่นส์, แดรี่ควีน และ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ตลอดจนร้านอาหารพันธมิตรที่เข้าร่วมอีกมากมาย เช่น เอสแอนด์พี, เออร์เบินพิซซ่า, เบรดทอล์ค, ซงฟา, เซอร์เจนท์ คิทเชน, อีสาน แซ่บ แซ่บ เป็นต้น
“ภาพรวมตลาดดีลิเวอรีมีมูลค่า 79,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโต 5% ไม่มากเหมือนกับที่ผ่านมาช่วงโควิดระบาด แต่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากฐานผู้บริโภคกลุ่มเดิมและผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่หันมาทดลองสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ไมเนอร์ ฟู้ด มุ่งเน้นในธุรกิจดีลิเวอรีมาจากการวางกลยุทธ์ในการสร้างจุดแข็งด้านการต่อยอดพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความคุ้นเคยกับการสั่งอาหารผ่านดีลิเวอรีให้ขยายวงกว้างมากขึ้น ใช้ประโยชน์จากการเป็นเจ้าของร้านอาหาร ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงจุด โดยเฉพาะเรื่องความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการ รวมไปถึงการควบคุมดูแลมาตรฐานของสินค้าให้ร้อนคงคุณภาพเหมือนเพิ่งออกจากเตา และความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำเสนอสิ่งที่ตรงความต้องการ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนมีการพัฒนาเมนูอาหารของร้านค้าในเครือฯ ให้มีความหลากหลาย รวมถึงการจัดโปรโมชันกิจกรรมการตลาดออกมาให้สอดรับกับกลุ่มลูกค้าดีลิเวอรี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาปรับราคาบ้าง 3-5%” นายธันยเชษฐ์กล่าว
นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี และธุรกิจดีลิเวอรี 1112 บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแอปฯ 1112 ให้บริการครอบคลุมมากถึง 75 จังหวัดแล้ว มากกว่าปี 2563 หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวแอปฯ 1112 อย่างเป็นทางการ ซึ่งพบว่าช่วงแรกมีการดาวน์โหลด 1 ล้านราย ขณะนี้มีมากถึง 2.5 ล้านรายแล้ว โดยมีไรเดอร์รวมมากกว่า 5,000 ราย แบ่งเป็นของบริษัทไมเนอร์ และไรเดอร์พันธมิตร อย่างละ 50% เท่ากัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของไมเนอร์พบว่าอดีตผู้ใช้บริการแอปฯ จะมีอายุเฉลี่ย 35 ปีขึ้นไป แต่ขณะนี้มีลูกค้ากลุ่มอายุเฉลี่ย 25-34 ปีเพิ่มขึ้นเป็นการได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่ม โดยมีเพศหญิงใช้บริการแอปฯ มากกว่า 67% และเพศชาย 33% ทำเลที่ใช้บริการอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากถึง 80% และต่างจังหวัด 20%
ขณะที่เมื่อเทียบกับปี 2562 พบว่าแอปฯ 1112 มีการเติบโตมากถึง 178% ในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก จากปกติจะเติบโตที่ 50% กว่า และคาดว่าในปี 2565 นี้ดีลิเวอรีของไมเนอร์ก็ยังคงเติบโตที่ 56% ส่วนปีหน้าก็คาดว่ายังคงเติบโตในระดับใกล้เคียงกันที่ 50%
สำหรับสัดส่วนรายได้ของไมเนอร์ฟู้ด ในช่วงก่อนเกิดโควิดจะแบ่งเป็น นั่งรับประทานในร้าน 60%, ดีลิเวอรี 15% และเทกอะเวย์ 30% ส่วนหลังสถานการณ์โควิดพบว่าสัดส่วนเปลี่ยนเป็นนั่งรับประทานในร้านอยู่ที่ 40%, ดีลิเวอรี 30% และเทกอะเวย์ 30% ซึ่งเทกอะเวย์จะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าใด แต่ที่เพิ่มมากขึ้นก็คือดีลิเวอรีเนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ดีลิเวอรีเติบโตมากขึ้น
“ปัจจัยความสำเร็จสำคัญที่ทำให้แบรนด์ “1112 ดีลิเวอรี” เติบโตเพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดตอบโจทย์กลยุทธ์การเป็น “Best Deal” ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุด โดยมาพร้อมกับการเปิดตัวแคมเปญ ‘Best Price รับประกัน ราคาดีที่สุด’ ราคาต่ำกว่าที่อื่น 15% หนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ออกมากระตุ้นตลาดดีลิเวอรี และเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในไทยให้ผู้บริโภคได้มั่นใจว่าจะได้รับดีลราคาที่ดีที่สุด เมื่อสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มดีลิเวอรี ครอบคลุม 7 แบรนด์ดังในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ทั้งเมนูเดี่ยวและชุดเซตคอมโบที่ร่วมรายการ หากเจอเมนูเดียวกันที่ราคาถูกกว่าในแพลตฟอร์มอื่นๆ เมื่อออเดอร์กับ 1112 ดีลิเวอรีครั้งถัดไป รับส่วนลดทันทีสูงสุด 100 บาท ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าวพร้อมให้ผู้บริโภคร่วมพิสูจน์ความคุ้มค่ากับการรับประกันราคาดีที่สุดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 6 กันยายน-5 ตุลาคม 2565 นี้ โดยหลังจากเปิดตัวแคมเปญนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายบนแพลตฟอร์มดีลิเวอรีเพิ่มขึ้น 30%
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการเป็น “Best Service” อีกหนึ่งในมาตรฐานการบริการเพื่อให้ผู้บริโภคที่สั่งดีลิเวอรีได้รับความพึงพอใจ โดยเฉพาะการการันตี ส่งร้อน-ส่งเร็ว ภายในเวลา 30 นาที ด้วยระบบการจัดการหลังบ้านที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ จัดส่งทุกเมนูให้ถึงมือผู้บริโภคภายในเวลาที่กำหนด ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เก็บความร้อนที่มีแผ่นทำความร้อน หรือ Heat Plate ควบคุมอุณหภูมิของอาหาร ทุกเมนูที่เสิร์ฟผ่านดีลิเวอรีของเรา ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ความอร่อยเทียบเท่ากับการมานั่งรับประทานที่ร้านแน่นอน นอกจากนี้เรายังได้ริเริ่มการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเสริมทัพในการจัดส่งอาหาร ให้สอดรับกับเทรนด์รักษ์โลกในการเป็นกรีนดีลิเวอรีอีกด้วย
ในขณะที่ภาพรวมของ 1112 ดีลิเวอรีในปี 2565 ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน 1112 สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2.5 ล้านครั้ง รองลงมาคือเว็บไซต์ และคอลเซ็นเตอร์ 1112 ตอกย้ำการเป็น “Best Experience” โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 นี้มีแผนที่จะเพิ่มศักยภาพของช่องทางดีลิเวอรี ในการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาระบบลอยัลตีโปรแกรมของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น