วิทยุการบินฯ-กพท. เปิดตัว Application “OpenSky” โดยร่วมกับ บริษัท Delv Aerospace พัฒนาระบบ “การจัดการจราจรทางอากาศสำหรับอากาศยานไร้คนขับ” เพื่อขออนุญาตก่อนบินโดรน นำร่องพื้นที่กทม.รัศมี 65 กม.จากสนามบินดอนเมือง เพื่อขยายการพัฒนาในพื้นที่ EEC
นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่ได้มอบหมายให้ บวท. เดินหน้า พัฒนาระบบนิเวศอากาศยานไร้คนขับ (UAS Ecosystem) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่ เชื่อมโยงระบบคมนาคมโครงสร้างพื้นฐานในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) บวท.จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT และ บริษัท เดลว์ แอโรสเปซ จำกัด (Delv Aerospace) เพื่อวางพื้นฐานการจัดการจราจรทางอากาศสำหรับอากาศยานไร้คนขับ หรือ UTM อย่างเป็นระบบ และอำนวยความสะดวกให้ผู้ควบคุมอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนแต่ละประเภทได้ใช้ Mobile Application ในการส่งคำขออนุญาตทำการบินโดรน ตามขั้นตอน กฎระเบียบและเงื่อนไขของหน่วยงานกำกับดูแลภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ที่ขอทำการบินโดรน รวมถึงระบบจะส่งข้อมูลการบินโดรนที่ได้รับอนุญาตแล้วไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง บวท. ร่วมกับ กพท. จะทดลองใช้ Application “OpenSky” ในพื้นที่นำร่อง เขตกรุงเทพฯ (Bangkok Control Zone) รัศมี 35 ไมล์รอบกรุงเทพฯ (หรือประมาณ 65 กิโลเมตร จากสนามบินดอนเมือง)
ทั้งนี้ กพท. จะออกประกาศ การใช้งานระบบอย่างเป็นทางการ คาดว่าภายในเดือนกันยายน 2565 นี้ และ บวท. จะขยายการให้บริการ Application “OpenSky” ไปทั่วประเทศในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ บวท. ได้เตรียมการเพื่อพัฒนาระบบการจัดการจราจรทางอากาศสำหรับอากาศยานไร้คนขับ หรือ UTM ในพื้นที่ ECC ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบห้วงอากาศเพื่อให้เกิดการใช้งานโดรนได้ครบทุกมิติ อาทิ ด้านการเกษตร การถ่ายภาพ การสำรวจ รวมถึงการขนส่งสินค้า และการรับส่งผู้โดยสาร ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งจะขยายศักยภาพต่อยอดในด้านอื่น ๆ พร้อมเดินหน้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมระบบการเดินอากาศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป