ผู้จัดการรายวัน 360 - ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเดินหน้าผลักดันบริการของ Central App สุดยอดแอปพลิเคชันประตูสู่การชอปปิ้งเหนือระดับ ล่าสุดเสริมแกร่งด้วยกลยุทธ์ 3 BESTs กับ 3 ความพิเศษแบบจัดเต็มเพื่อลูกค้า “Best Brands, Best Services และ Best Offers” ภายใต้คอนเซ็ปต์ #ช้อปแบบที่ชอบ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักชอปด้วยสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษอย่างครบครันให้คุณออกแบบการชอปปิ้งในแบบที่ชอบได้ด้วยตัวเอง
นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ห้างเซ็นทรัลเป็นผู้นำในวงการรีเทลไทย เราทำการตลาดแบบ beyond expectations คือ เปิดรับและพร้อมเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด พร้อมพัฒนาตนเองในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งของลูกค้าได้อย่างทันยุคสมัยและทันโลกมาตลอด 75 ปี ด้วยการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกคน อย่างการเปิดตัวเว็บไซต์ Central.co.th เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การชอปปิ้งออนไลน์ในยุคที่ดิจิทัลกำลังเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย จนกระทั่งสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทเราจึงได้ต่อยอดการชอปปิ้งสู่การเปิดตัว Central App เมื่อปี 2020 เพื่อให้ลูกค้าสามารถชอปได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมรับสิทธิพิเศษที่ดีที่สุดทั้งที่ห้างและออนไลน์ นับเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการชอปปิ้งแบบออมนิแชนเนลด้วยการเชื่อมต่อทั้งหน้าร้านและออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
“Central App มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 5 ล้านคน ซึ่งจากฐานลูกค้าที่เรามีนี้ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้าได้อย่างตรงจุด จากฐานลูกค้าที่เรามีนี้ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพื่อเข้าใจและเข้าถึงทุกความต้องการและนำมาพัฒนาต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ โดยจากการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่ชอปปิ้งออนไลน์ผ่าน Central App ในครึ่งปีแรก พบว่ามีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการสูงสุดในช่วงเวลา 07.00-14.00 น. โดยกลุ่มสินค้า 5 อันดับที่มียอดชอปสูงสุด ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์ความงาม 2. สินค้าแฟชั่น 3. สินค้า Small App 4. ผลิตภัณฑ์ของใช้และของตกแต่งบ้าน 5. สินค้าสำหรับเด็ก โดยลูกค้าของเราเลือกรับสินค้าผ่านบริการ Click and Collect มากที่สุด ตามด้วย 1 Hour pick up และ 3 Hours delivery ตามลำดับ”
“จากพฤติกรรมการชอปปิ้งของลูกค้าข้างต้น แต่ละคนมีความชอบและต้องการที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป เราจึงวางกลยุทธ์ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกคนกับกลยุทธ์ 3 BESTs ผ่าน 3 ความพิเศษด้วยสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษที่ดีที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ #ช้อปแบบที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น ชอบช้อปของแท้ ชอบช้อปสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟไม่เหมือนใคร ชอบดีลดี ชอบของแถม ไปจนถึงชอบส่งด่วน ก็สามารถดีไซน์ได้ตามต้องการเพื่อให้ Central App ตอบโจทย์ ‘Customer Journey’ ของทุกคน” นางสาวรวิศรากล่าว
สำหรับ 3 กลยุทธ์ที่ Central App ได้พัฒนาและต่อยอด ประกอบด้วย
1) Best Brands เช่น สินค้าพรีเมียมและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็ม กว่า 5,000 แบรนด์ดังทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ Karl Lagerfeld, การเปิดตัวคอลเลกชันใหม่จากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น ความงาม ฯลฯ ให้คุณได้ชอปก่อนใคร เฉพาะที่ Central App แบรนด์ดัง แบรนด์แท้ 100%
2) Best Offers พบดีลดีๆ หมุนเวียนเปลี่ยนใหม่, พบของสมนาคุณเมื่อชอปครบตามเงื่อนไข, พร้อมคูปองส่วนลดพิเศษ ที่ชอปได้ทั้งที่ห้าง และบนแอปพลิเคชัน, โปรโมชันพิเศษร่วมจากพันธมิตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเดอะวัน, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน บัตรเครดิตอื่นๆ ที่ร่วมรายการ และอีกมากมาย
3) Best Services สะดวกชอปแบบไหนก็แฮปปี้ด้วยบริการรับสินค้าที่คุณเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น เลือกรับสินค้าที่ห้างด้วยบริการ Click & Collect, เลือกรับสินค้าที่ห้างภายใน 1 ชั่วโมง, บริการ 3 Hours Delivery ส่งไวทันใจภายใน 3 ชั่วโมง, การันตีรับคืนสินค้าทุกชิ้นที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันทุกสาขา ภายใน 14 วัน
“สิ่งที่เราเห็นมาตลอดนับแต่เปิดตัว Central App คือ อัตราการชอปปิ้งที่เติบโตแบบเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งช่วยเสริมให้ Central App มียอดขายพุ่งไปถึง 105% เมื่อเทียบสัดส่วนยอดขายรวมของห้างในทุกช่องทาง ทำให้มั่นใจว่าเราสามารถรองรับลูกค้าของเราได้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมมุ่งมั่นยกระดับ Central App อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนในการพัฒนาระบบและบริการกว่า 300 ล้านบาท เพื่อให้ Central App เป็นแอปพลิเคชันที่เข้าใจลูกค้ามากกว่าใคร” นางสาวรวิศรากล่าว