xs
xsm
sm
md
lg

TOP โชว์กำไรไตรมาส 2 พุ่งแตะ 2.53 หมื่นล้าน จับตาทิศทางราคาน้ำมันครึ่งปีหลังผันผวนสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยออยล์แจงกำไรไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 25,327 ล้านบาท เติบโตขึ้นเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศฟื้นตัว ค่าการกลั่นปรับสูงขึ้นจากสงครามยูเครน-รัสเซีย และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น GPSC ชี้ธุรกิจการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอนสูงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์และราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งเดินหน้าแผนการลงทุนและขยายธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน 

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ปรับตัวดีขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันในประเทศฟื้นตัวและค่าการกลั่นที่ปรับสูงขึ้นชั่วคราวจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดตึงตัว ส่วนครึ่งปีหลังยังต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีความผันผวนสูง ในขณะที่ค่าการกลั่นเริ่มปรับลดลงสู่ระดับปกติ เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานปรับสู่สมดุล ส่งผลให้สต๊อกน้ำมันเบนซินทยอยปรับสู่ระดับปกติ

โดยในไตรมาส 2/2655 มีรายได้จากการขาย 143,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 78,120 ล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไทยออยล์บันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 7,557 ล้านบาท มีการบันทึกขาดทุนจากการเข้าทำสัญญาบริหารความเสี่ยง 12,626 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25,327 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,123 ล้านบาท

ทั้งนี้ ไทยออยล์ได้บันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 12,880 ล้านบาท (หลังหักภาษี) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาว เพื่อนำไปชำระเงินกู้ยืมระยะสั้น (Birding Loan) สำหรับการเข้าลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีที่ประเทศอินโดนีเซีย

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขาย 258,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 151,570 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 32,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,483 ล้านบาท

นายวิรัตน์กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอนสูงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดังนั้นจึงต้องติดตามสถานการณ์และราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ ไทยออยล์เร่งเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจตามแผนการลงทุนที่วางไว้ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการต่อยอดไปยังธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ได้แก่ การลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) และการลงทุนในธุรกิจโอเลฟินส์ที่ประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งขยายตลาดและกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ต่างประเทศในระดับภูมิภาคและแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ (New S-Curve) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคตเพื่อลดความผันผวนจากอุตสาหกรรมพลังงานและนำไปสู่เป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น