“โบทานี” พร้อมรบศึกเพ็ตฟูด จ่อลุยอาหารสัตว์แพลนต์เบส

ผู้จัดการรายวัน 360 - “โบทานี เพ็ทแคร์” พร้อมรบศึกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง หลังโรงงานผลิตเตรียมสตาร์ทเครื่องแล้ว ลุยทุกเซกเมนต์ เจาะทุกช่องทาง พร้อมรับโออีเอ็ม เป้ารายได้ปีหน้า 200 ล้านบาท เอ็นอาร์เอฟเล็งต่อยอดแพลนต์เบสเพ็ตฟูด

นายวุฒิ เครือน้ำคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง หลังจากที่บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ได้เข้ามาถือหุ้นจำนวนร้อยละ 66.7% และได้เปลี่ยนแปลงโรงงานที่จังหวัดราชบุรี เป็นโรงงานผลิตอาหารและอาหารกินเล่นสัตว์เลี้ยง โบทานี เพ็ทแคร์ พื้นที่ 9 ไร่ ขณะนี้โรงงานมีความพร้อมในการผลิตแล้ว ด้วยกำลังผลิตอาหารสัตว์ทั้งหมด 2,000 ตันต่อเดือนในเฟสแรก และยังสามารถเพิ่มไลน์ผลิตที่สองได้จะทำให้มีกำลังผลิตเป็น 5,000 ตันต่อเดือน
 
ทั้งนี้ การผลิตจะมีทั้งการผลิตแบรนด์ของบริษัทเองที่จะเจาะตลาดทุกกลุ่มระดับทั้งอีโคโนมี กลุ่มสแตนดาร์ด และกลุ่มพรีเมียม เช่นแบรนด์ KATTY BOSS, BRAVO BOSS เป็นต้น และการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็มให้กับแบรนด์ต่างๆ ท้้งในไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทจะเป็นผู้ทำตลาดสินค้าอาหารสัตว์แบบไฮบริด คือมีทั้งอาหารสัตว์แบบแห้ง และแบบเปียกที่มาจากพันธมิตรอีกด้วย

การทำตลาดจากนี้จะเจาะทุกช่องทาง ทั้งเทรดิชันนัลเทรด ร้านค้าทั่วไป และโมเดิร์นเทรด ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นเน้นการรับจ้างผลิตโออีเอ็ม ตลาดหลักเช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน สิงคโปร์ ซีแอลเอ็มวี อินเดีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา คาดว่าในปีแรกจะทำยอดรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทในปีหน้า แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากต่างประเทศ 60% และในไทย 40%
 


“บริษัทฯ มีแผนการส่งมอบผลิตภัณฑ์ในเดือนแรกหลังเปิดสายการผลิตให้แก่ลูกค้าที่มาจ้างผลิตกว่า 300-400 ตัน และมีแผนขอใบอนุญาตการนำเข้าของแต่ละประเทศปลายทาง (Destination country import permit) เพื่อรองรับปริมาณการผลิตอีกกว่า 1,000 ตัน/เดือน ที่จ่อผลิตในโรงงานของโบทานี เพ็ทแคร์ ที่จะเข้ามาเพิ่มในช่วงไตรมาส 4/2565 เพื่อการผลิตและจำหน่ายที่ครอบคลุมตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในอนาคตคาดว่าการขยายตลาดอาหารและอาหารกินเล่นสัตว์เลี้ยงจะครอบคลุมไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งแผนการผลิตภายใต้แบรนด์ของ บริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียนอาหาร โดยจะครอบคลุมในทุกๆ segment (Eco to Premium) คาดว่าออกจำหน่ายในปลายไตรมาส 3/2565 โดยจะเจาะตลาดในประเทศเป็นหลักในช่วงแรก” นายวุฒิกล่าว

นายวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับตลาดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของไทยมีมูลค่าประมาณ 110,000 ล้านบาท แบ่งเป็น อาหารสัตว์มากที่สุด 70% นอกนั้นก็เป็นอื่นๆ เช่น ของเล่น อุปกรณ์การเลี้ยง คลินิก เป็นต้น โดยเป็นตลาดที่มาจากการส่งออก 80,000 ล้านบาท และเป็นตลาดในประเทศประมาณ 30,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10%

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF กล่าวว่า บริษัทฯ มองเห็นถึงศักยภาพของโบทานีในการรุกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตอย่างดี อีกทั้งหลังวิกฤตโควิด-19 ทำให้เกิดการทำงานแบบ Work from home จวบปัจจุบันที่ยังคงมีการทำงานในรูปแบบ Hybrid ส่งผลให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้เราพร้อมดำเนินการผลิตแล้วและมีผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าสูงกว่าประมาณการ คาดว่าสัดส่วนรายได้รวมกลุ่มบริษัทเติบโตอยู่ที่ 10% อีกทั้งในอนาคตมีแผนผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในกลุ่มพรีเมียม โดยผลิตจากโปรตีนพืช (Plant-Based Pet Food) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกรองรับพฤติกรรม Pet Humanization ที่ห่วงใยสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเสมือนครอบครัว”

ทั้งนี้ เอ็นอาร์เอฟมีระบบนิเวศที่จะเข้ามาสนับสนุนโบทานีได้เป็นอย่างดี ทั้งช่องทาง ทีมงาน ระบบต่างๆ หรือแม้แต่อีคอมเมิร์ซ