xs
xsm
sm
md
lg

HMC Polymers ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้โต 29% แตะ 4 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 40,000 ล้านบาท โตขึ้น 29% จากปีก่อน เร่งขยายไลน์การผลิต 4 ผลิตเม็ดพลาสติก PP เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตัน/ปี พร้อมชูวิสัยทัศน์ “Endless Possibilities Begins” จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ที่ไม่สิ้นสุด ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และความยั่งยืน

นายสิริเดช คุ้มวงศ์ดี ประธานบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) รายแรกและใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 31,000 ล้านบาทหรือเติบโต 29% นับเป็นผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางการแกว่งตัวเป็นวัฏจักรของธุรกิจปิโตรเคมี โดยบริษัทมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพ (Differentiated) ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าตลาด โดยบริษัทมี EBITDA Margin อัตราร้อยละ 15 ในปี 2564 ที่สูงกว่าปี 2563 ถึงร้อยละ 60 และอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA อยู่ที่ 2.1 เท่า สะท้อนไปที่อันดับเครดิตของบริษัทในระดับ A-

บริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริการ เพื่อสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงานอย่างไม่หยุดยั้ง จึงเป็นที่มาของแนวคิด “Endless Possibilities Begin” จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ที่ไม่สิ้นสุด เพื่อขับเคลื่อนการผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้บริโภค ภายใต้ร่วมมือกับผู้ถือหุ้น “LyondellBasell” ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีนที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก เพื่อผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ และเกรดคุณภาพ ทำให้ได้เม็ดพลาสติกที่มีความแตกต่างและมีคุณลักษณะเฉพาะตัว รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำมารีไซเคิลได้ง่ายตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

โดยคิดค้นนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ใช้ผลิตเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ขวดน้ำเกลือ หลอดเข็มฉีดยา ส่วนประกอบหน้ากากอนามัย รวมทั้งผลิตชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตยานยนต์ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร เพราะมีความทนทานต่ออุณหภูมิและรอยขีดข่วน ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบาช่วยประหยัดการใช้พลังงาน


นอกจากนี้นำไปผลิตเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ภายในบ้าน ด้วยคุณสมบัติของเม็ดพลาสติก PP ที่มีความเหนียว ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี และมีความต้านทานต่อสารเคมีสูง สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูงต่ำของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ รวมถึงนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความทนทาน สามารถเข้าช่องแข็งและไมโครเวฟได้ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PP สู่ล้านตันต่อปี โดยเพิ่มสายการผลิตที่ 4 คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2565 ส่งผลให้กำลังการผลิตจากเดิม 810,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,060,000 ตันต่อปี สูงเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เทคโนโลยี Spherizone ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ LyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ HMC Polymers

นายสิริเดชกล่าวว่า บริษัทยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยดำเนินการก่อสร้างหอเผาระดับพื้น (Ground Flare) เพื่อลดมลพิษจากการเผาไหม้ที่หอเผาสูง (Elevated Flare) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ควบคุมควันดำได้เป็นอย่างดี รวมถึงลดเสียงและแสง โดยเป้าหมายต่อไปของ HMC Polymers คือ “Zero Flare” ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลก

ทั้งนี้ มูลค่าโครงการ CAPEX โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทำงาน ความสม่ำเสมอของกระบวนการผลิต กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร

โครงสร้างการถือหุ้นบริษัท HMC Polymers ประกอบด้วย บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (PTTGC) ถือหุ้นใหญ่ 41% บริษัท LyondellBasell บริษัทข้ามชาติที่ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก 29% รวมทั้งนักลงทุนรายอื่นๆ ในไทยอีก 30%


กำลังโหลดความคิดเห็น