ครม.ไฟเขียวผลักดันนโยบายอุตสาหกรรมเหมืองแร่และต่อเนื่อง โดยให้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุน 3 กลุ่มประเภท ทั้งการสำรวจแร่ กิจการทำเหมืองและแต่งแร่ กลุ่มกิจการถลุงและประกอบโลหกรรม เดินหน้าลดการนำเข้าสร้าง ศก.ในประเทศ พร้อมรับทราบความคืบหน้าเหมืองทองอัคราหลังอนุญาโตตุลาการเลื่อนวันชี้ขาดไปวันที่ 31 ธันวาคม 2565
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เมื่อ 2 ส.ค. เห็นชอบผลักดันนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในเฟสแรก ด้วยการปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุน แบ่งกิจการ ต้องการส่งเสริมออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1. กลุ่มกิจการสำรวจแร่ 2. กลุ่มกิจการทำเหมืองแร่และหรือแต่งแร่ และ 3. กลุ่มกิจการถลุงแร่หรือประกอบโลหกรรม พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงอุตสาหกรรม ประสานความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการกำหนดมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในช่วงถัดไป
ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการใช้แร่สูงขึ้น ทั้งแร่โลหะพื้นฐาน โลหะมีค่า แร่หายาก และแร่อุตสาหกรรมอื่นๆ เป็นผลจากนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้า การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 มูลค่าเพิ่มของการทำเหมืองแร่คิดเป็นสัดส่วน 2.1% ของ GDP แต่ขณะนี้ไทยยังประสบปัญหาเกี่ยวกับแร่ที่ใช้ภายในประเทศ เช่น ต้องพึ่งพาการนำเข้าแร่จากต่างประเทศ ขาดการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตจากแร่ ขาดมาตรการและแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมแหล่งวัตถุดิบในกระบวนการผลิต และขาดการลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากการทำเหมือง
เลื่อนชี้ชาดเหมืองทองอัครา 31 ธ.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมรับทราบเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด กรณีเหมืองทองอัครา ซึ่งเป็นการรายงานความคืบหน้าตามปกติเดือนละ 1 ครั้ง ถึงการแสดงเจตนาของบริษัทคิงส์เกตฯ ซึ่งอนุญาโตตุลาการยังไม่ได้ชี้ขาดและได้เลื่อนวันชี้ขาดไปวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ขณะนี้มีการเจรจา บริษัทคิงส์เกตฯได้ไปหาเงินของเขามาได้ และเขาสามารถที่จะประกอบการได้ แต่ต้องมายื่นทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย ทั้งนี้ ไม่มีการพูดถึงเรื่องการยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 และยกเลิกไม่ได้ การที่มีบางฝ่ายเสนอให้ยกเลิกมาตรา 44 แล้วจะหยุดและกลับไปเซตซีโร่ ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างเดินหน้าไปแล้ว ไม่กลับไปเหมือนเดิม
“ผลจะออกมาอย่างไรอยู่ที่อนุญาโตฯ จะตัดสิน กับประการที่สอง ก่อนจะถึงเวลาของอนุญาโตฯ ถ้าหากบริษัทอัคราฯ เข้ามายื่นอะไรต่ออะไรแล้วเขาพอใจ เขาก็อาจจะไปขอถอนเรื่องจากอนุญาโตฯ ได้ ซึ่งการที่เจรจากันอยู่ทุกวันนี้เป็นไปตามคำแนะนำของอนุญาโตฯ อนุญาโตฯ บอกว่ายังไม่ตัดสิน คุณไปเจรจาเสียก่อน ให้เวลาถึงสิ้นปี” นายวิษณุกล่าว