คอนเสิร์ต “สายเกา” ตบเท้า “ติ่งเกาหลี” ดันอีเวนต์ฟื้น

การตลาด - ผลดีของการเปิดประเทศ ไทยกลายเป็นแดนสวรรค์ แลนด์มาร์กของการจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต “ติ่งเกาหลี” เตรียมกระเป๋าฉีก ครึ่งปีหลังมีนับ 10 งาน เบียดชิงพื้นที่จัดงานจนคิวแน่น แต่ราคาบัตรแพงจนเกือบเปย์ไม่ไหว (บอกไหว) เชื่อพลังติ่ง ตัวแปรหลักดันธุรกิจอีเวนต์กลับมา 50% ของมูลค่าตลาดรวมอีเวนต์ 15,000 ล้านบาท ที่เคยทำได้สูงสุดก่อนมีโควิด

ตั้งแต่ประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19 รวมถึงกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ตั้งเป้าไว้ 10 ล้านคนในปีนี้นั้น นอกจากภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวแล้ว ยังส่งผลดีต่อตลาดรวมอีเวนต์ทันตาเห็นอีกด้วย โดยเฉพาะอีเวนต์ในรูปแบบคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง ผุดขึ้นทันตาเห็นหลังเปิดประเทศ แถมบัตรยังขายหมดเกลี้ยงเพียงไม่กี่นาที แม้ราคาบัตรจะแพงกว่าปกติก็ตาม

โดยเฉพาะศิลปินจากแดนกิมจิ ต่างพร้อมใจกันมาปักหมุด จุดหมายแรกต้องเป็นประเทศไทยเท่านั้น ในการจัดคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้งในต่างประเทศครั้งแรกหลังโควิดคลี่คลาย ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะติ่งไทยพร้อมต้อนรับและพร้อมเปย์ศิลปินไอดอลของพวกเขาอย่างเต็มหัวใจ แพงแค่ไหนก็สู้ มาที่ไทยเหมือนมาบ้านหลังที่สองก็ว่าได้ บวกกับมาตรการการเปิดประเทศของไทยก็เอื้อให้การจัดคอนเสิร์ตด้วย เอาเป็นว่ามาไทยยังไงก็ไม่ขาดทุนในทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม เสียงดรามาในโลกโซเชียลได้โอดครวญถึงราคาบัตรคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีบางงานว่า ราคาบัตรแพงมาก หรือราคาบัตรแพงและไม่เหมาะสมกับสถานที่ที่จัด อย่างเช่น คอนเสิร์ต 2022 K-POP MASTERZ IN BANGKOK ซึ่งไลน์อัพศิลปินหลักๆ มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ หนุ่มๆ วง TREASURE (เทรเชอร์), แบมแบม got7 และแจ็กสัน หวัง got7 โดยจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2565 นี้ ที่อิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน ฮอลล์ 5-6 เมืองทองธานี เฉพาะสถานที่ก็ไม่ใช่สถานที่ปกติของการจัดคอนเสิร์ตแล้ว แถมบัตรยังมีราคาสูงมาก เรตสูงสุดอยู่ที่ 8,900 บาท ต่ำสุดคือ 3,000 บาท ซึ่งคอนเสิร์ตนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตเกาหลีที่มีราคาบัตรสูงสุดของปีนี้ด้วย

“การดึงศิลปินเกาหลีมาจัดคอนเสิร์ตในไทย ปกติจะเป็นในรูปแบบของการประมูลกัน ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ การประมูลจึงใช้งบสูงในระดับหนึ่ง บวกกับสถานที่จัดงานก็ต้องแย่งกัน เพราะมีเตรียมจัดหลายงานจากที่อั้นกันมา บวกกับต้องระวังในเรื่องโควิดงานที่เพิ้งดีลจบจึงหาสถานที่จัดงานไม่ทัน ต้องใช้สถานที่อื่นแทน การจัดงานจึงทำได้ในสเกลที่เล็กลง ส่งผลให้ราคาบัตรแพงกว่าปกตินั่นเอง” เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เหตุผลไว้


**เมืองไทย แลนด์มาร์กคอนเสิร์ตเกาหลี**
ดังนั้นเพื่อฉายภาพให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูรายชื่อศิลปินเกาหลีที่เตรียมจะมาคอนเสิร์ตในไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้กันดีกว่า เท่าที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ มีทั้งหมด 10 งาน ได้แก่ 

1. THE BOYZ WORLD TOUR : THE B-ZONE IN BANGKOK จัดขึ้นวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 23-24 กรกฎาคม 2565 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

2. CHA EUN WOO <2022 JUST ONE 10 MINUTE> STARRY CARAVAN IN BANGKOK วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

3. 2022 K-POP MASTERZ IN BANGKOK วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2565 ที่อิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน ฮอลล์ 5-6 เมืองทองธานี

4. SUPER JUNIOR WORLD TOUR - SUPER SHOW 9 : ROAD in BANGKOK จัดขึ้นในวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 30-31 กรกฎาคม 2565 ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี

5. KIM WOO SEOK 1st FANMEETING in Bangkok : NNN วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

6. (G)I-DLE WORLD TOUR [JUST ME ( )I-DLE] LIVE IN BANGKOK วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

7. 2022 YUGYEOM 1st LIVE IN BANGKOK วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ที่อิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน ฮอลล์ 5, เมืองทองธานี

8. 2022 AB6IX FAN CONCERT in BANGKOK [AB_NEW AREA] วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

9. 2022 HWANG IN YOUP 1st Fan Meeting in Bangkok วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565 ที่แจ้งวัฒนะ ฮอลล์, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ชั้น 5

10. SEVENTEEN WORLD TOUR [BE THE SUN]
LIVE IN BANGKOK วันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 1-2 ตุลาคม 2565 ที่ชาลเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

เอาเป็นว่า ครึ่งปีหลังนี้เมืองทองธานีกลายเป็นแดนกิมจิไปเลย บางวันมีคอนเสิร์ตเกาหลีจัดชนกันถึง 2 คอนเสิร์ต ปรากฏการณ์แบบนี้หาได้ยากมากทั้งในไทยและทั่วโลก ก็คงจะได้เห็นในครั้งนี้แหละ ติ่งเกาหลีปีนี้จึงสู้ชีวิตมาก และเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้ตลาดอีเวนต์กลับมา


**คอนเสิร์ตดันอีเวนต์กลับมา 50%**
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในภาพรวมแล้ว พบว่ารายชื่อคอนเสิร์ตต่างๆ ที่จะมีขึ้นในไทยนั้น นอกจากส่วนใหญ่ที่เป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินเกาหลี ยังมีศิลปินดังระดับโลกอย่าง จัสติน บีเวอร์ ที่จะมาจัดคอนเสิร์ต เวิลด์ทัวร์ ที่ไทยในปลายปีนี้ด้วย ขณะเดียวกันในกลุ่มนักร้องศิลปินไทยเอง ก็มีอีกหลายงานที่พร้อมตบเท้ากันขึ้นเวทีคอนเสิร์ตกันไปจนถึงสิ้นปี และเมื่อนับรวมตลอดครึ่งปีหลังนี้ ประเทศไทยจะมีการจัดงานคอนเสิร์ตที่ประกาศอย่างเป็นทางการทั้งหมดรวมกว่า 30 งานเลยทีเดียว แต่เชื่อว่าจะมีเพิ่มเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวอีกหลายงาน

แน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดอีเวนต์ เพราะคอนเสิร์ตถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่ช่วยผลักดันให้ภาพรวมตลาดอีเวนต์ปีนี้กลับมาได้ 50% หรือคิดเป็น 6,000-7,500 ล้านบาท เทียบกับช่วงปกติก่อนมีโควิด ที่ตลาดรวมอีเวนต์เคยมีมูลค่าถึง 15,000 ล้านบาท

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัทครีเอทีฟอีเวนต์อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชียล อีเวนต์ แมกกาซีน สหรัฐอเมริกา) ได้กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ในปีนี้ไว้ว่า ตลอดทั้งปี 2565 นี้เชื่อว่าตลาดรวมอีเวนต์จะกลับมาได้ 40-50% ของตลาดอีเวนต์มูลค่า 15,000 ล้านบาทที่เคยทำไว้ก่อนเกิดโควิด

โดยพบว่าภาพรวมตลาดอีเวนต์ช่วงครึ่งปีแรกเริ่มกลับมาคึกคักหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่ผู้คนเริ่มคลายความกังวลลง เนื่องจากประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็มหรือมากกว่า และเกิดการอัดอั้น ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ เริ่มกลับมาใช้เม็ดเงินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้านการเปิดตัวสินค้า การทำโปรโมชันสินค้า และบริการ ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และมีการใช้เม็ดเงินอย่างคุ้มค่ามาก ด้านนักการตลาดต่างใช้เงินเพื่อจัดแคมเปญต่างๆ คึกคักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ ด้านการเปิดตัวสินค้า และบริการต่างๆ ในธุรกิจหลากหลาย เช่น ด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านสินค้าอุปโภค และบริโภค ด้านยานยนต์ ด้านการธนาคาร สินเชื่อ และการลงทุน ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม และด้านสินค้าแฟชั่น เป็นต้น

“ครึ่งปีแรกเริ่มมีสัญญาณบวก อีเวนต์เริ่มกลับมา แต่ส่วนใหญ่เป็นอีเวนต์ด้านการตลาด อย่างเปิดตัวสินค้า งานอีเวนต์จึงมีสเกลที่ไม่ใหญ่นัก ส่วนครึ่งปีหลังจะคึกคักมากกว่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มอีเวนต์คอนเสิร์ตที่จะกลับมาจัดกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในไตรมาสสี่ ถือเป็นช่วงเวลาที่อีเวนต์จะกลับมาได้เกือบ 100% ดังนั้นเมื่อมองในภาพรวมแล้วตลอดทั้งปีนี้อีเวนต์จะกลับมาได้ 40-50% ส่วนในปีหน้าในสถานการณ์ปกติ มั่นใจว่าตลาดอีเวนต์จะกลับมาได้ 100%” นายเกรียงไกรกล่าวสรุป