xs
xsm
sm
md
lg

PTT-OR-SCC ยันได้รับผลกระทบเล็กน้อย หากเมียนมาระงับการจ่ายหนี้ต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่ม ปตท.และปูนซิเมนต์ไทยออกโรงชี้แจง ยันได้รับผลกระทบน้อยจากเมียนมาระงับการจ่ายหนี้ต่างประเทศ เหตุการซื้อขายสินค้าส่วนใหญ่ทั้งซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งน้ำมันเป็นการซื้อขายข้ามพรมแดนและชำระเงินสด ไม่มีหนี้ที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยกรณีที่ธนาคารกลางเมียนมาออกคำสั่งให้ธนาคารแจ้งลูกค้าธุรกิจและรายย่อยระงับการจ่ายหนี้แก่เจ้าหนี้ต่างประเทศเพื่อรักษาปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงต่อเนื่องว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวน้อย เนื่องจากโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ที่เมียนมาได้หยุดไปตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ มองสถานการณ์ดังกล่าวจะใช้เวลานานกว่าโรงงานผลิตปูนซีเมนต์จะกลับมาผลิตได้อีกครั้ง จึงได้ดำเนินการด้อยค่าสินทรัพย์ไปบ้างแล้ว ส่วนการซื้อขายสินค้าในเครือฯ ที่เมียนมานั้น เป็นการซื้อขายข้ามพรมแดน จึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด


ทั้งนี้ SCC มีการตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ขนาด 1.8 ล้านตันต่อปีที่เมาะละแหม่ง ห่างจากย่างกุ้ง 180 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนรวม 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ยุติการผลิตไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เนื่องจากไม่มีหินปูนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปูนซีเมนต์ หลังจากมีข้อพิพาทกับพันธมิตรท้องถิ่น ทำให้ไม่สามารถเข้าพื้นที่เหมืองหินปูนได้ ซึ่งได้มีการยื่นคำร้องเพื่อดำเนินการระงับข้อพิพาทด้วยกระบวนการอนุญาโตตุลาการและกระบวนการทางกฎหมาย ขณะเดียวกัน SCC ได้ตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ไปแล้ว 4,335 ล้านบาท


นายรชา อุทัยจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายธนาคารกลางเมียนมาน้อยมาก เนื่องจากกิจการของ OR ที่ดำเนินธุรกิจในเมียนมาไม่มีภาระในการชำระหนี้เงินกู้เป็นเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งกิจการร้านคาเฟ่อเมซอนที่มีอยู่จำนวน 9 สาขา มีการสั่งซื้อสินค้าจากไทย เป็นสินค้า Supply Use มีมูลค่าการสั่งซื้อไม่สูง และเงื่อนไขการซื้อขายแบบชำระเป็นเงินสด

ส่วนการจำหน่ายน้ำมันเพื่อใช้ในประเทศเมียนมานั้นมีปริมาณไม่มาก จึงส่งผลกระทบน้อยมากต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกัน โครงการก่อสร้างคลังปิโตรเลียมในเมียนมาที่ร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นยังคงดำเนินการต่อไป อาจเกิดความล่าช้ากว่าแผนงานเดิมที่วางไว้บ้างจากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อ OR แต่อย่างใด


ด้านแหล่งข่าวบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ทั้ง ปตท. OR และ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) ได้รับผลกระทบน้อยมากจากเรื่องดังกล่าว เนื่องจากการซื้อขายอยู่ในรูปเงินสด ดังนั้นไม่มีหนี้สินที่เมียนมาจะต้องชำระในรูปเงินตราต่างประเทศแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น