บีซีพีจีเจรจาบริษัทแม่ “บางจาก คอร์ปอเรชั่น” ขอซื้อสิทธิ์รับแร่ลิเทียม เพื่อต่อยอดขยายสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หวังสร้างการเติบโตในอนาคต
แหล่งข่าวบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างแสวงหาโอกาสการลงทุนธุรกิจ New S-Curve ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเพื่อสร้างการเติบโตนอกเหนือจากธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยบริษัทสนใจลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) เพื่อรองรับดีมานด์การเติบโตอย่างรวดเร็วตามการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยบริษัทแม่ คือบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) มีสัญญารับซื้อผลผลิตแร่ลิเทียมจากโครงการ Cauchari Olaroz เหมืองลิเทียมที่ประเทศอาร์เจนตินาประมาณ 6,000 ตัน/ปีจากบริษัท Lithium Americas (LAC)
บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่ในเรื่องดังกล่าว โดยอาจจะเป็นการขอซื้อสิทธิ์รับแร่ลิเทียมดังกล่าวแทนบางจาก หรือให้บางจากจำหน่ายแร่ลิเทียมให้พาร์ตเนอร์ที่บีซีพีจีจะเข้าไปร่วมลงทุนด้วย ฯลฯ ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้จะช่วยให้ BCPG มีมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value) เพิ่มขึ้นซึ่งจะสะท้อนไปยังหุ้นบางจากด้วย
ทั้งนี้ ปริมาณลิเทียมที่บางจากได้สิทธิ์ในการซื้อ 6,000 ตัน/ปี สามารถผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมสำหรับใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าได้หลายหมื่นคัน ซึ่งขณะนี้ลิเทียมเป็นที่ต้องการของตลาดมาก จึงเป็นจังหวะที่ดีในการเจรจาเพื่อเข้าถือหุ้นกับบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่เพื่อป้อนรถ EV
“การขอสิทธิ์รับแร่ลิเทียมนี้ขึ้นกับการตัดสินใจของบางจากว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งมีหลายแนวทาง บางจากอาจจะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดูแลเอง หรือขายให้พาร์ตเนอร์ที่บีซีพีจีหามา หรือร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์เพื่อลงทุนผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมก็ได้”
สำหรับวางงบลงทุน 5 ปีนี้ (2565-69) อยู่ที่ 95,000 ล้านบาท โดยปี 2565 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเน้นการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) รวมทั้งเร่งโครงการสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าย่อยจาก สปป.ลาวไปยังเวียดนามสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ซึ่งบริษัทฯ เป็นเจ้าของ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในบริเวณใกล้เคียงใน สปป.ลาว เพื่อส่งไฟฟ้าไปขายไฟฟ้าให้กับ EVN ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง