เปิดผลสำรวจคนไทยพบว่ามีปัญหาการนอนสูงถึง 30-40% หรือประมาณ 19 ล้านคน ซึ่งผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่าจากปัญหาการนอนสามารถส่งผลให้เกิดโรคภัยต่างๆ ล่าสุดโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เปิดตัว ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ’ ตอบโจทย์ทุกปัญหา
หลายคนอาจมอง ‘ปัญหาการนอน’ เป็นเรื่องเล็ก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ‘การนอน’ เป็นองค์ประกอบถึง 1 ใน 3 ของชีวิตทั้งหมด การนอนหลับอย่างมีคุณภาพส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายและปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย สถิติของ Sleep Foundation สหรัฐอเมริกา พบว่าผู้สูงอายุประมาณ 30-48% ประสบปัญหาการนอน ขณะที่ผลสำรวจคนไทยพบว่ามีปัญหาการนอนสูงถึง 30-40% หรือประมาณ 19 ล้านคน ซึ่งผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่าจากปัญหาการนอนสามารถส่งผลให้เกิดโรคภัยต่างๆ รวมถึงยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและคุณภาพการใช้ชีวิตตามปกติอีกด้วย
เภสัชกรหญิง อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การเปิด ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ’ หรือที่เรียกว่า ‘Comprehensive Sleep Clinic’ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในงานแถลงข่าว The Hidden Impact of Sleep ถือเป็นคลินิกการรักษาที่มีความสำคัญ ที่จะช่วยให้เรามีคุณภาพการนอนที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัญหาการนอนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งจากร่างกาย จิตใจ และสภาวะแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว หรือบางรายอาจมีโรคซับซ้อนแฝงอยู่ โดยที่ตัวผู้ป่วยเองอาจไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่ง ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ’ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สามารถนำไปสู่การตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและทราบถึงสาเหตุของปัญหาการนอนเพื่อการรักษาได้ตรงจุด ที่สำคัญ กรณีตรวจพบว่าผู้ป่วยมีโรคอื่นร่วมด้วย บำรุงราษฎร์ยังสามารถส่งต่อการรักษาได้อย่างทันท่วงทีแบบไร้รอยต่อด้วยความชำนาญการและประสบการณ์ของทีมแพทย์เฉพาะทางที่ครอบคลุมทุกสาขา รวมถึงมีสหสาขาวิชาชีพที่ทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพเพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้าน นพ.เขษม์ชัย เสือวรรณศรี รองประธานอาวุโสปฏิบัติการด้านการแพทย์ และแพทย์ชำนาญการด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ให้บริการครอบคลุมในทุกปัญหาของการนอน ตั้งแต่การประเมินซักถาม การตรวจวินิจฉัย เพื่อหาสาเหตุของปัญหาการนอนของแต่ละบุคคล และสามารถรักษาถึงต้นเหตุของปัญหาได้อย่างตรงจุด ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ ด้านระบบทางเดินหายใจ ด้านหู คอ จมูก ด้านระบบประสาท ด้านทันตกรรม และจิตแพทย์ รวมถึงมีบริการตรวจวินิจฉัยในระดับมาตรฐานสากลที่มีความละเอียดแม่นยำสูง รวมถึงให้บริการการรักษาที่ครอบคลุมทั้งอาการและโรคต่างๆ ที่สัมพันธ์หรือเกิดจากปัญหาการนอนได้อย่างครอบคลุมแบบองค์รวม
ด้าน พญ.เบญจมาศ อินทรโภคา แพทย์ชำนาญการด้านโรคระบบหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ปัญหาการนอนที่พบบ่อยมากที่สุดและมาปรึกษาแพทย์ที่ ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ’ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คือ ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ รองลงมาคืออาการนอนไม่หลับ โดยเบื้องต้นแพทย์จะทำการประเมินซักถามผู้ป่วย และทำการวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุ โดยส่วนใหญ่แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการตรวจที่เป็นมาตรฐาน (Gold Standard) ที่มีความละเอียดแม่นยำมากที่สุด ตรวจในห้องปฏิบัติการตรวจการนอนหลับในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1 คืน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน ทำให้ได้ผลวิเคราะห์ที่แม่นยำและทราบถึงสาเหตุแท้จริงของปัญหาการนอน ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตรวจ Sleep Test ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันการรักษาภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ มากกว่า 95% แพทย์ทั่วโลกนิยมรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวกเพื่อขยายช่องทางเดินหายใจ ซีแพพ (Continuous Positive Airway Pressure: CPAP) ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยหลักการปล่อยให้แรงดันอากาศเปิดช่องคอที่แฟบให้เปิดขยาย ทำให้ไม่เกิดการอุดกั้นเวลาหายใจขณะที่นอนหลับ โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้สามารถรักษาภาวะนอนกรน และภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับได้ทุกระดับอาการ โดยข้อดีคือ ผู้ป่วยไม่นอนกรน ไม่หยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลให้วงจรการนอนกลับมาเป็นปกติ โดยหลังการรักษาแล้ว ผู้ป่วยจะมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น นอนได้เต็มอิ่ม ตื่นมารู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี มีสมาธิดีขึ้น ความจำดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้โรคต่างๆ ที่เคยเป็นมีอาการที่ดีขึ้นตามไปด้วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เพราะการคุมเบาหวานจะดีขึ้น น้ำหนักลดลงโดยอัตโนมัติ เพราะการนอนที่ดีจะช่วยให้ร่างกายมีการเผาผลาญที่ดี และระบบของร่างกายจะมีความสมดุลมากขึ้น ที่สำคัญ การรักษาด้วยวิธี CPAP ยังเป็นการป้องกันโรคที่ยังไม่เกิดขึ้นได้อีกด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
ทั้งนี้ ด้าน พญ.ดารกุล พรศรีนิยม แพทย์ชำนาญการด้านประสาทวิทยาและเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้กล่าวถึงข้อมูลสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับรายงานว่าผู้ที่มีภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ จะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่า ภายในระยะเวลา 10 ปีหากไม่ได้รับการรักษา อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่สอดคล้องกัน รายงานว่ากลุ่มที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก จะมีโอกาสเกิดภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับสูงถึง 50-90% ที่สำคัญ ภายในเวลา 10 ปี หากไม่ได้รับการรักษาภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ จะเพิ่มโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
อย่างไรก็ตาม ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีภาวะอ้วนร่วมด้วย มีอายุที่มากขึ้น รวมถึงหากเป็นผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน อายุประมาณ 50-55 ปี ก็จะมีภาวะหยุดหายใจเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพราะในช่วงอายุที่มีประจำเดือน ร่างกายจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหลอดลมแข็งแรง แต่พอฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงหรือหมดไป กล้ามเนื้อหลอดลมก็จะแฟบลง ทำให้มีการนอนกรนหยุดหายใจมากขึ้น
ทางฝั่ง ศ.นพ.ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ แพทย์ชำนาญการด้านหู คอ จมูกและเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวเสริมถึงผู้ที่มีปัญหาการนอนด้วยอาการอื่นๆ ว่า ปัญหานอนไม่หลับ นอนกัดฟัน นอนขากระตุก นอนละเมอเดินละเมอพูด โรคลมหลับ ง่วงนอนกลางวันผิดปกติ หรือภาวะนอนไม่หลับในเด็กนั้น ทางบำรุงราษฎร์มีทีมแพทย์ชำนาญการที่ครอบคลุมทุกสาขาที่พร้อมประเมินซักถาม หรือตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุ และส่งมอบให้แพทย์เฉพาะทางเพื่อการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกตัวอย่างกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็กและไม่สามารถใส่เครื่อง CPAP ได้ รวมถึงผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ เป็นไซนัส จมูกคด ใบหน้าผิดปกติ หรือมีเพดานอ่อนหรือลิ้นไก่ยาวผิดปกติ ก็จะมีการส่งผู้ป่วยเพื่อเข้ารับรักษาที่ศูนย์หู คอ จมูก, ศูนย์ทันตกรรม หรือศูนย์สุขภาพทางจิต ซึ่งบำรุงราษฎร์มีวิธีการรักษาที่หลากหลาย เช่น การรักษาด้วยยา การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ การผ่าตัดปกติและการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ การผ่าตัดต่อมทอนซิล การใส่เครื่องมือทางทันตกรรม การจัดฟัน ดึงกราม หรือการปรับความคิดและพฤติกรรมบำบัด ทั้งนี้เพื่อการรักษาแก้ไขให้ตรงจุดก่อน ซึ่งจะมีการติดตามผลการรักษา แต่หากยังพบปัญหาการนอนอยู่ โดยเฉพาะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์ก็จะทำการรักษาด้วยวิธี CPAP เป็นขั้นตอนของการรักษาต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลินิกคุณภาพการนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ชั้น 12 อาคาร A (คลินิก) หรือ โทร. 0-2011 2988 หรือ โทร. 1378