“ อุบล ไบโอ เอทานอล”ชี้ผลประกอบการไตรมาส2/65โตต่อเนื่อง โดยธุรกิจเอทานอลมียอดการใช้เพิ่มขึ้นหลังจากน้ำมันแพง ทำให้ผู้ใช้รถหันมาเติมแก๊สโซฮอล์E20และE85เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจแป้งมันสำปะหลังก็มียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
นายชุณห์ โภไคศวรรย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส2/2565 เติบโตขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้เอทานอลเพื่อไปผสมในน้ำมันเบนซินมากขึ้นด้วย ขณะที่ปริมาณสำรองเอทานอลในประเทศค่อนข้างต่ำ ทำให้แนวโน้มราคาเอทานอลปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส2-4 ปีนี้ สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูง ส่วนธุรกิจแป้งก็เติบโตขึ้นเช่นกัน
โดยยอดใช้น้ำมันในเดือนเม.ย.2565 พบว่ามีการใช้แก๊สโซฮอล์ปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ E20 และE85 ทำให้มียอดการใช้เอทานอลเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สต็อกเอทานอลในประเทศต่ำมีโอกาสขาดแคลนได้
ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้น 15%จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,007ล้านบาท มาจากยอดขายทุกธุรกิจเติบโตขึ้น ซึ่งธุรกิจเอทานอล ทั้งเกรดเชื้อเพลิง (Fuel Alcohol) และเกรดอุตสาหกรรม(Industrial Grade Alcohol) ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายชุณห์ กล่าวว่าในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง ประเภท High Value Product ในกลุ่มแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค และแป้งฟลาวมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ “Tasuko” ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และแพ้กลูเตน (Gluten-free) ซึ่งสามารถใช้ทดแทนแป้งสาลีในอุตสาหกรรมขนมและเบเกอรี่ พบว่ามียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากราคาแป้งสาลีที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับคู่ค้าหลายรายให้มาใช้แป้งฟลาวแทนแป้งสาลีที่มีราคาสูง
นอกจากนี้ จีนเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวขึ้น ทำให้จีนต้องนำเข้าแป้งเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสดีในการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของบริษัท อย่างไรก็ดี จากราคาค่าขนส่งทางเรือที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทหันมาทำตลาดส่งออกในประเทศที่ใกล้ไทยมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง เช่น ออสเตรเลียและตะวันออกกลาง เป็นต้น
ผลการดำเนินงานไตรมาส1/2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,547 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท