ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดความงามมูลค่า 1.447 แสนล้านบาทกลับมาบูมอีกครั้ง ปีก่อนโต 5% ส่วนปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตมากกว่าเดิม ชี้สกินแคร์นำทีมเติบโตสูงสุด ‘ลอรีอัล’ ปลื้มผลงานในปีก่อนทำได้ดีอย่างมาก ล่าสุดโชว์แผนปี 65 มุ่งปักหมุดผู้นำด้าน Beauty Tech เร่งเครื่องส่ง 5 แบรนด์ดาวรุ่งที่มีแนวโน้มขายดีลุยปี 65 เต็มกำลัง
นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา เปิดเผยว่า ตลาดความงามเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เกิดการดิสรัปชันในทางที่ดี ส่งผลให้เทรนด์ผู้บริโภคจากนี้จะมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ดีต่อสิ่งแวดล้อม หาข้อมูลก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ ในส่วนของลอรีอัลยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของ Beauty Tech
ปีที่ผ่านมาตลาดความงามทั่วโลกเติบโต 8% แบ่งเป็น NORTH AMERICA โต 12%, LATIN AMERICA โต 7%, SAPMENA / SSA โต 5%, EUROPE โต 7% และ NORTH ASIA โต 7% ส่วนลอรีอัลจากปี 2563 มีแชร์ทั่วโลกที่ 13.2% แต่ในปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 14.2% เป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งนี้เชื่อว่าในปีต่อๆ ไปตลาดความงามจะยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้น จากการที่ผู้บริโภคกลับมาถอดหน้ากากและใช้ชีวิตกันปกติ
สำหรับประเทศไทย ปีที่ผ่านมาตลาดความงามโต 5% หรือมีมูลค่ารวมกว่า 1.44 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวครองส่วนแบ่งสูงสุดที่ 57.5% อันดับ 2 คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 21% 3. กลุ่มเมกอัพ 15.5% และ 4. น้ำหอม 6% โดยตลาดความงามประเทศไทยมีขนาดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค SAPMENA (เอชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ) และลอรีอัล ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน 5 ตลาดหลักในภูมิภาคดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดในประเทศไทย ลอรีอัลเติบโตสูงกว่าตลาดและส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยแผนกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเติบโต 2 เท่าใน 3 ปี และช่องทางออฟไลน์ตามห้างกลับมาเติบโตอีกครั้ง
แผนงานปี 2565 นี้มุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการผ่านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้าน Beauty Teach ปัจจุบันลอรีอัลทุ่มงบประมาณและทรัพยากรให้กับงานด้านการค้นคว้าวิจัย และการพัฒนานวัตกรรม 3 ด้าน ได้แก่ 1. รังสรรค์สูตรผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี AI 2. ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม และ 3. ลงทุนในการสร้างพันธมิตรด้านดาต้าในบริษัทแนวหน้า ทั้งนี้ ลอรีอัลมีนวัตกรรมความงามด้าน Beauty Tech มากกว่า 12 นวัตกรรม ทั้งในด้านผิวหนัง เส้นผม และเมกอัพ สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในโลกดิจิทัลอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งหมด 59 ช่องทางจากทั้งหมด 15 แบรนด์ชั้นนำ ซึ่งปีนี้วางแผนมากกว่า 500 แคมเปญ
“ตลาดความงามในไทยช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเติบโตแล้ว 4-5% ถึงสิ้นปีนี้มองว่าจะเติบโตมากกว่าปีก่อน โดยลอรีอัลมั่นใจว่าจะเติบโตมากกว่าตลาด ซึ่งลอรีอัลตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ด้าน Beauty Tech ในผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์เส้นผมสำหรับมืออาชีพ, ผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง, คอนซูเมอร์โปรดักต์ที่มีขายทั่วไป และเวชสำอาง ส่วนแบรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและพร้อมทำตลาดในปีนี้ คือ CareVe, Kerastase, L’oreal, Yves Saint Laurent และ Kiehl’s” นางอิลเนสกล่าว