xs
xsm
sm
md
lg

BGRIMชี้ไตรมาส2โตขึ้น รับรู้กำลังผลิตใหม่-ค่าFt

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บี.กริม เพาเวอร์ ลั่นไตรมาส2โตกว่าไตรมาสก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากกำลังผลิตใหม่ที่จ่ายไฟเข้าระบบ โครงการM&A โครงการและการปรับขึ้นค่าFt คาดครึ่งหลังปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มหนุนทั้งปีมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มกว่า1พันเมกะวัตต์

นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 เติบโตดีกว่าไตรมาสก่อน เนื่องจากสามารถรับรู้กำลังการผลิตใหม่และการซื้อกิจการ (M&A) โครงการมาเลเซียเข้ามา รวมทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) รอบเดือนพ.ค.-ส.ค.นี้ ที่ 23.38 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ส่งผลดีต่อราคาขายไฟฟ้า

ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 136 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้า SPP Replacement จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาทดแทนโรงไฟฟ้าโครงการเดิมที่สัญญาจะหมดอายุลง และคาดว่าจะสามารถปิดดีลซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มเติมอีก จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอยู่หลายราย ทำให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตเติบโตเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 1,000 เมะกวัตต์ในปีนี้

ปัจจุบัน BGRIM มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 53 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 3,254 เมกะวัตต์ ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตรวมของโครงการใหม่ไม่น้อยกว่า 1 กิกะวัตต์ หรือ 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ ซึ่งจะมาจากโครงการที่ก่อสร้างใหม่และการเข้าซื้อกิจการตั้งอยู่ในหลากหลายประเทศ โดยยังคงเป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573

ปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซฯอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกับทางหน่วยงานของรัฐบาลที่ปัจจุบันก็มีการหาแนวทางในการดูภาพรวมของต้นทุนก๊าซ โดยการใช้สูตรที่ปรับเปลี่ยนไปจาก Gas pool มาเป็น Energy pool price ซึ่งก็ดูอยู่ว่าตรงนี้จะช่วยในเรื่องของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าหรือการจัดการด้านพลังงานของประเทศไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะมีส่วนหนึ่งที่ช่วยให้แนวโน้มของต้นทุนราคาก๊าซมีโอกาสไม่สูงมากไปกว่านี้

นายนพเดช กล่าวว่าบริษัทยังมองการหาโอกาสในการเพิ่มรายได้จากทางลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) หรือการทำ M&A เพื่อเพิ่มรายได้ ส่วนการจัดการด้านประสิทธิภาพ ก็จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ๆ เพื่อลดการใช้ก๊าซลง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายให้ได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่อปี และการร่วมกับทางบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ก็จะช่วยให้มีรายได้เกิดขึ้นปีละ 20-25 ล้านบาทต่อโครงการ

อย่างไรก็ดีในปีหน้าบริษัทมีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว( LNG )โดยมีสัญญาระยะยาวที่ล็อกไว้ตั้งแต่ช่วงปีก่อน ซึ่งหากกระบวนการนำเข้าก๊าซ LNG ดำเนินการได้ก็เชื่อว่าจะช่วยหนุนการดำเนินงานและภาระต้นทุนราคาก๊าซฯ ในโรงไฟฟ้าของบริษัทให้ปรับตัวดีขึ้น

สรวมทั้ง ช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทยังมีแผนออกเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 5,000-8,000 ล้านบาทเพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจ


กำลังโหลดความคิดเห็น