จากเทรนด์กระแสการรักษ์สิ่งแวดล้อม ใครจะคิดว่า จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ผลักดันให้หญิงสาวคนหนึ่ง ก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน พร้อมกับความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะทำให้ทุกคนในสังคมได้รับอากาศที่สะอาด และปราศจากมลพิษ
อรวรรณ ชวดมี กรรมการบริหารใหญ่บริษัท แอร์โรว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (Arrow Energy Co.,Ltd.) เล่าถึงแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าว่า ด้วยแนวโน้มและกระแสความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เธอตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด “ฝ้ายเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยงานแรกที่ฝ้ายทำก็คือ การเป็นวิศวกรฝ่ายขาย (Sales engineer) จำหน่ายระบบไฟฟ้าให้โรงงานอุตสาหกรรม”
แรงผลักดัน สู่ธุรกิจพลังงานสะอาด
การสังเกต และคาดการณ์ถึงแนวโน้มของการใช้พลังงานอย่างมีนัยยะสำคัญ ได้กลายเป็นแรงผลักที่ทำให้เธอ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และใช้เงินเก็บที่มีเปิดบริษัทของตัวเองขึ้นมา “กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ทุกคนทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจาก การใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ทั้งมลพิษทางอากาศ และก๊าซเรือนกระจก จนกลายเป็นภาวะโลกร้อนอย่างทุกวันนี้”
“บริษัท แอร์โรว์ เอ็นเนอร์ยี่ จึงเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเดิมทีนับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจของเราขึ้นมา เราวางให้เป็นธุรกิจแบบ B2B เพราะลูกค้าของเราคือโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการใช้หม้อต้มไอน้ำ (Boiler) และเครื่องดักจับฝุ่นในกระบวนการผลิต โดยจุดเด่นของโรงงานเหล่านี้คือจะใช้เชื้อเพลิงแบบชีวมวล ที่ได้มาจากซากพืชจากการทำเกษตรกรรม เช่น แกลบข้าว ชานอ้อย และปาล์ม ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างและเพิ่มประสิทธิภาพให้หม้อต้มไอน้ำ เรายังสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดี โดยวันนี้ เราให้บริการโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงงานอุตสาหกรรมแล้วกว่า 80 โรงงานทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ และต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นการตอกย้ำ การแก้ไขปัญหาพลังงานของโลก อย่างยั่งยืน”
เทรนด์พลังงานเพื่อชีวิตอนาคต
“ฝ้าย-อรวรรณ” ในฐานะของกรรมการบริหารใหญ่ของบริษัท ยังตระหนักไปถึงมลพิษที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอย่าง กรุงเทพฯ ด้วย “เทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ รวมถึง ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และปัญหาโลกร้อนได้ บริษัท แอร์โรว์ เอ็นเนอร์ยี่ ของเรา จึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจไลน์ใหม่ โดยใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญของเราที่มี ทำสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์” คุณอรวรรณ บอกด้วยว่า นี่เป็นอีกหนึ่งนโยบายของบริษัท ที่ต้องการขยายธุรกิจ ในแบบ B2C เพื่อให้เข้าถึงผู้คนในสังคม ไปพร้อมๆ กับ การสร้างความตระหนักถึงเรื่องพลังงานแห่งโลกอนาคต
“Q Charge คือแบรนด์ธุรกิจที่เราแตกไลน์ใหม่ ขึ้นมา เพื่อให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในฐานะสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่จะติดตั้งอยู่ทุกอาคารในกรุงเทพฯ และ หัวเมืองต่างๆ เพื่อให้คนเห็นจนรู้สึกคุ้นชิน และ มั่นใจมากขึ้นที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผลักดันแผนพัฒนา EV ของประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราได้ติดตั้งสถานี Q Charge ไปแล้วกว่า 10 จุดในกรุงเทพฯ โดย 8 สถานีจะอยู่ในชั้นจอดรถของคอนโดมิเนียม และอีก 2 สถานีจะอยู่ในโรงพยายาล” สำหรับในอนาคต ผู้บริหารสาวย้ำอย่างหนักแน่นว่า จะติดตั้ง Q Charge ให้ได้ถึง 2500 จุด ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งก็จะรวมถึงการติดตั้งในพื้นที่ส่วนบุคคล รวมถึง ห้างสรรพสินค้า อาคารแบบไฮไรส์ และ โรงแรมด้วย
เตรียมพร้อมสู่เป้าหมายความสำเร็จ
“ในปีนี้เราจะเน้นติดตั้งที่กรุงเทพฯก่อน และจะเริ่มกระจายไปตามจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่, พัทยา, ขอนแก่น, และภูเก็ต ภายในปีหน้า ซึ่งฝ้ายมองว่า ความสำเร็จของตัวเอง คือการทำให้ Q Charge เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วไปเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย”
“นับตั้งแต่เราเริ่มติดต่อ อาคาร และคอนโดมิเนียมต่างๆ เพื่อเสนอการติดตั้งสถานี Q Charge ฝ้ายพบว่า มีคนสนใจและต้องการที่จะติดตั้งสถานีมากกว่า 80% รวมถึงให้เข้าไปสำรวจและนำเสนอแล้วมากกว่า 50% ตอบรับที่จะติดตั้งให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ในตอนแรกเป็นอย่างมาก ณ วันนี้เราได้ทำการสำรวจและศึกษาแนวโน้มการเติบโตของตลาดจากสถาบันวิจัยต่างๆ จึงได้ตั้งเป้าใหม่ให้ตอบรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คิวชาร์จทุ่มทุนกับการวิจัยพัฒนาและมีแผนจะทำการตลาดแบบอิมแพ็ค เพื่อให้ปีนี้ธุรกิจสถานีชาร์จเติบโตมากกว่า 1000%”
ทั้งหมดนี้ เป็นหนึ่งความตั้งใจ และความทุ่มเทของ ผู้หญิงที่ชื่อ "ฝ้าย-อรวรรณ ชวดมี" ที่ต้องการให้โลกของเราสะอาด และมีอากาศบริสุทธิ์ให้ทุกๆ คน ได้หายใจอย่างไร้ความกังวล