ขบ.จัดประมูลทะเบียนรถพิเศษครั้งแรก 7 เม.ย. 65 นี้ "รวย สวย เฮง ชนะ" คำยอดฮิต เปิด100 แผ่นป้ายนำร่องใน กทม. ชวนลงทะเบียนจองก่อนเคาะราคาทั้งแบบวาจาและอินเทอร์เน็ต เพื่อครอบครองป้ายไม่ซ้ำใคร คาดโกยเงินเข้า กปถ.ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ และการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี ให้สามารถใช้ตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์ รวมกับหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมในป้ายทะเบียนรถได้ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 แล้วนั้น ขณะนี้ ขบ.มีความพร้อมที่จะเปิดประมูลเลขทะเบียนรถพิเศษแล้ว โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 7 เมษายน 2565
โดยจะมีการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ ในหมวดอักษร ได้แก่ รวย 9999, เฮง 8, สวย 8888, ธรรม 8, ชนะ 9 เป็นต้น ซึ่งสามารถเสนอราคาประมูลได้ 2 ช่องทาง ทั้งทางระบบอินเทอร์เน็ต โดยเสนอราคาล่วงหน้า แบบเรียลไทม์ หรือจะกำหนดราคาขั้นสูง Maximum Bid ที่ www.tabienrod.com และประมูลทางวาจาด้วยตนเอง ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยมีแผ่นป้ายทะเบียนพิเศษที่สามารถเปิดให้ประมูลได้ประมาณ 100 ป้าย และเป็นป้ายทะเบียนในกรุงเทพฯ ส่วนจังหวัดอื่นๆ หากประชาชนมีความต้องการ จะมีการพิจารณาขยายการประมูลป้ายทะเบียนพิเศษต่อไป
สำหรับหมายเลขที่นำมาประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ แบ่งกลุ่มหมายเลขเป็น 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีราคาเริ่มต้นการประมูลที่แตกต่างจากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยในหมวดอักษรปกติ ได้แก่ SUPERPREMIUM เลข 8 และ 9 สี่ตัวเหมือน (8888, 9999) มีราคาเริ่มต้นการประมูล 1,500,000 บาท, PREMIUM สี่ตัวเหมือน (1111 2222 3333 4444 5555 6666 7777) ราคาเริ่มต้น 1,000,000 บาท, GOLD เลขตัวเดียว (1-9) เลขสองตัวเหมือน (11-99), สามตัวเหมือน (111-999), เลขคู่ 8, คู่ 9 (8899 9988 8998 8989 9898 9889) เช่น ชนะ 9 ราคาเริ่มต้น 800,000 บาท และ SILVER เลขหลักพัน (1000-9000), เลขเรียง (123-789,1234-6789), เลขคู่ (1122, 3434, 5665) ราคาเริ่มต้น 500,000 บาท
โดยถึงวันที่ 28 มีนาคมมีผู้เข้ายื่นลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประมูลแล้ว 38 ราย ซึ่งกว่าจะถึงวันที่ 7 เมษายน คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้น และคาดว่าการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษในครั้งแรกนี้จะสามารถนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประเทศได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงดูแลผู้ประสบภัยทางถนน โดยปัจจุบัน กปถ.มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีเงินสะสมกองทุนประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
ผู้ร่วมประมูลจะได้ครอบครองป้ายทะเบียนรถลักษณะพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แผ่นป้ายแตกต่างจากป้ายทะเบียนปกติ ตัวแผ่นป้ายไม่มีรอยดุลและไม่มีขอบ ภาพพื้นหลังมีลวดลายกราฟิก ซึ่งยากต่อการปลอมแปลง ทั้งนี้ หากมีการปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบ มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ มีโทษจำคุก 6 เดือน-5 ปี และมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท-100,000 บาท ซึ่งผู้ประมูลได้สามารถโอนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นหรือโอนเป็นมรดกได้ และนำไปใช้กับรถที่จดทะเบียนแล้วได้เช่นเดียวกัน
นายจิรุตม์กล่าวว่า แผ่นป้ายที่จะนำออกประมูลจะต้องมีผู้ลงทะเบียนแสดงความจำนงไม่น้อยกว่า 2 ราย ดังนั้น ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ โดยสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน อาคาร 2 ชั้น 5 กรมการขนส่งทางบก ในวันและเวลาราชการ หรือลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.tabienrod.com พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบด้วย ใบลงทะเบียน บัตรประจำตัวประชาชน ในกรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หลักฐานการชำระเงิน และหน้าบัญชีธนาคาร โดยมีขั้นตอนการประมูล ดังนี้
1. ลงทะเบียนตามหมายเลขที่ต้องการประมูล 2. ชำระค่าหลักประกันการประมูลผ่านธนาคารหรือชำระเป็นเงินสดตามอัตราที่กำหนด 3. เสนอราคาตามคำหรือข้อความและเลขทะเบียนที่สนใจ ทางวาจาในวันปิดประมูล ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) และทางอินเทอร์เน็ตที่ www.tabienrod.com ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันปิดประมูล โดยเมื่อเสร็จสิ้นการประมูลแล้วผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระค่าหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้ให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน สามารถติดตามรายละเอียดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษเพิ่มเติมได้ทาง www.tabienrod.com หรือสำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โทร. 0-2272-5937 หรือสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร. 1584 หรือ 0-2271-8888