ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่องส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันผู้ค้าขยับสูง ลุ้นลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ด้าน "กบน." ไล่ประชุมลดอุดหนุนดีเซลเหลือ 5.80 บาทต่อลิตร มีผลวันนี้ (16 มี.ค.) ทำสภาพคล่องกองทุนฯ ดีขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ได้เห็นชอบให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลลง 1.97 บาทต่อลิตรจากเดิมชดเชย 7.77 บาทต่อลิตรเหลือ 5.80 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันนี้ (16 มี.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการปรับลดการชดเชยลงต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกได้ปรับลดลงต่อเนื่องซึ่งทำให้มีแนวโน้มการปรับลดอัตราการชดเชยจะเกิดขึ้นได้อีกเร็วๆ นี้
“ผลพวงจากระดับราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ที่ลดลงแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ค่าการตลาดของดีเซลและน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ดีดตัวเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากดีเซลยังมีการชดเชยราคาสูงทำให้มีการลดอัตราการชดเชยลง แต่ ณ วันที่ 16 มี.ค.ค่าการตลาดดีเซลเฉลี่ย 3.20 บาทต่อลิตรยังคงทำให้มีโอกาสที่จะลดการชดเชยลงอีก ส่วนกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5-4 บาทต่อลิตร จึงมีแนวโน้มที่ผู้ค้าน้ำมันจะปรับลดราคาขายปลีกลงได้ในเร็วๆ นี้” แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าว
การลดอัตราการชดเชยของดีเซลลงส่งผลให้ภาระการดูแลดีเซลลดต่ำลงต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันส่งผลให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นตามลำดับ โดยสถานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 13 มี.ค. มีฐานะติดลบรวม 29,336 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบแล้วอยู่ที่ 1,243 ล้านบาท ส่วนบัญชีแอลพีจีติดลบ 28,093 ล้านบาท เนื่องจากมีการใช้เงินไปชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตามนโยบายที่ต้องการตรึงราคาไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ซึ่งล่าสุดได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคาดีเซล ณ วันที่ 16 มี.ค.อยู่ที่ 5.80 บาทต่อลิตร ขณะเดียวกันต้องควักอุ้มราคาแอลพีจีถึง 18.17 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เพื่อตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก.