ปักธงจัด ProPak Asia 2022 มิถุนายนนี้ ชวนผู้ประกอบการปรับทิศ เร่งรับมือความผันผวน เสริมแกร่งแรงงาน-การผลิต-แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ด้วยเทคโนโลยีพร้อมสร้างความยั่งยืน
ProPak Asia 2022 กลับคืนสังเวียนอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ หลังเผชิญความท้าทายต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ปรับทิศทางชวนผู้ประกอบการธุรกิจไทย รับมือความผันผวนของตลาดแรงงาน และการผลิต พร้อมปักหมุดการส่งออกและการเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการรายย่อยที่ทำนิวไฮต่อเนื่อง!
งานสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ที่รวบรวมทั้งความรู้ แรงบันดาลใจ และโอกาสทางธุรกิจเอาไว้ในที่เดียว อย่าง ProPak Asia 2022 เตรียมจัดขึ้นอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 15 - 18 มิถุนายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา โดยในปีนี้มีการเผยถึงทิศทางภาพรวมการจัดงาน ที่จะมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการรับมือความผันผวนด้านแรงงานและการผลิต ด้วยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาใช้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน
นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงาน ProPak Asia 2022 กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าความผันผวนด้านแรงงาน และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเป็น ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการพึ่งพาแรงงานในสายการผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่ไม่น้อย
หรือแม้แต่แรงงานที่เป็นคนไทยเองก็ตาม ต่างประสบกับปัญหาจากการระบาดของเชื้อโรค ทำให้ไม่สามารถรวมตัวเพื่อทำการผลิตในพื้นที่เดียวกันได้ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านการผลิตที่จะเข้ามทดแทนการใช้กำลังคนเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งจากในไทยและต่างประเทศ ที่จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการลดการพึ่งพาแรงงาน หรือบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามความจำเป็น และว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคนั้นเกิดจากการได้รับผลกระทบในภาวะโควิด 19 ที่เกิดขึ้นทำให้วิถีการจับจ่ายใช้สอยเปลี่ยนแปลง ความต้องการสินค้าและบริการนั้นคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย และสุขอนามัยเป็นหลัก ปัจจัยสำคัญทั้งแรงงาน และพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นจึงให้การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความเสียหายในการผลิต และยังสามารถควบคุมคุณภาพของผลผลิต ลดการสัมผัสปนเปื้อน ที่ในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งได้อีกด้วย”
ทั้งนี้ความสม่ำเสมอของคุณภาพสินค้าถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตลาดการส่งออก ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับปี 2565 โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าภาพรวมการส่งออกของไทยปี 2564 มีการขยายตัวถึง 17 % เมื่อเทียบกับปีก่อน (ทั้งที่ 2564 เป็นปีที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์เดลต้า ตั้งแต่ช่วงไตรมาศสอง) เป็นมูลค่า 271,173 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินความคาดหมาย ในขณะที่ปี 2565 ก็มีคาดการณ์ว่าจะขยายตัวต่อเนื่องได้ราว 3-4% จากหลายปัจจัย อาทิ การเปิดตลาดสินค้าทางการเกษตรทั้งสดและแปรรูปในกว่า 30 ประเทศ รวมทั้ง การเปิดตลาดส้มโอในสหรัฐที่น่าจับตา การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุ การดำเนินนโยบายทางการค้าระหว่างประเทศในเชิงรุกผ่านทูตพาณิชย์ที่มีอยู่ทั่วโลก เป็นต้น
เพื่อเป็นการติดอาวุธ เสริมความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อก้าวสู่การแข่งขันในตลาดการค้าระดับโลก ในปีนี้ ProPak Asia 2022 จึงได้จับมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIP) จัดการประกวดออกแบบบรรจุภัณฑ์ ThaiStar Packaging Awards 2022 ขึ้นซึ่งถือเป็นการจัดร่วมอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี เพื่อคัดสรรและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ และนักศึกษา เห็นความสำคัญของการต่อยอดและเพิ่มมูลค่า
สินค้าด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ โดยแบ่งเป็นการประกวดในประเภทความคิดสร้างสรรค์ ประเภทการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมฯ รวมกว่า 80 รางวัล โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “เป็นที่ทราบ กันดีว่าบรรจุภัณฑ์นั้นถือเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้สินค้านั้นเกิดมูลค่าเพิ่ม การออกแบบ ผลิต และการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ โครงสร้าง แบบดีไซน์นั้นถือเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญไม่แพ้การผลิต เพราะเป็นปัจจัยในการเพิ่มผลกำไรจากการจำหน่ายสินค้า บรรจุภัณฑ์ทำหน้าที่มากกว่าการบรรจุ ในด้านการตลาดช่วยส่งเสริมการขาย ในบางกรณีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดียังช่วยเพิ่มปริมาณ เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มหน้าที่ตัวเองและลดการสูญเสียจากการขนส่งได้ด้วย นอกจากนี้หากมองในแง่ของคุณค่าบรรจุภัณฑ์นั้น มีบทบาทอย่างมาก ในการสร้างแบรนด์ให้มีความโดดเด่นประทับใจลูกค้า และสร้างภาพจำ เพราะเป็นปราการด่านสำคัญ ด่านแรก ที่ผู้บริโภคทั่วโลกจะได้สัมผัสก่อนที่จะได้รับประสบการณ์จากการใช้ตัวผลิตภัณฑ์ด้านในเสียอีก”
อย่างไรก็ตามการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ก็ยังมีเรื่องท้าทายให้แก่ผู้ประกอบการในหลายประการ ไม่ใช่แค่สวยงามและน่าซื้อ แต่ยังต้องคำนึงถึงการขนส่ง ฟังก์ชั่นและความทนทานที่เหมาะสม ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ ตลอดจนกฎหมายและนโยบายในระดับประเทศและภูมิภาคที่มีการวางระเบียบและมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าที่จะส่งเข้าไปขาย อย่างเช่น European Green Deal อันเป็นนโยบายของภูมิภาคยุโรปที่มุ่งลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลให้เกิดการแบนส่วนประกอบบางประเภททั้งในสินค้าและบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
สินค้าด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ โดยแบ่งเป็นการประกวดในประเภทความคิดสร้างสรรค์ ประเภทการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมฯ รวมกว่า 80 รางวัล โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “เป็นที่ทราบ กันดีว่าบรรจุภัณฑ์นั้นถือเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้สินค้านั้นเกิดมูลค่าเพิ่ม การออกแบบ ผลิต และการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ โครงสร้าง แบบดีไซน์นั้นถือเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญไม่แพ้การผลิต เพราะเป็นปัจจัยในการเพิ่มผลกำไรจากการจำหน่ายสินค้า บรรจุภัณฑ์ทำหน้าที่มากกว่าการบรรจุ ในด้านการตลาดช่วยส่งเสริมการขาย ในบางกรณีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดียังช่วยเพิ่มปริมาณ เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มหน้าที่ตัวเองและลดการสูญเสียจากการขนส่งได้ด้วย นอกจากนี้หากมองในแง่ของคุณค่าบรรจุภัณฑ์นั้น มีบทบาทอย่างมาก ในการสร้างแบรนด์ให้มีความโดดเด่นประทับใจลูกค้า และสร้างภาพจำ เพราะเป็นปราการด่านสำคัญ ด่านแรก ที่ผู้บริโภคทั่วโลกจะได้สัมผัสก่อนที่จะได้รับประสบการณ์จากการใช้ตัวผลิตภัณฑ์ด้านในเสียอีก”
อย่างไรก็ตามการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ก็ยังมีเรื่องท้าทายให้แก่ผู้ประกอบการในหลายประการ ไม่ใช่แค่สวยงามและน่าซื้อ แต่ยังต้องคำนึงถึงการขนส่ง ฟังก์ชั่นและความทนทานที่เหมาะสม ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ ตลอดจนกฎหมายและนโยบายในระดับประเทศและภูมิภาคที่มีการวางระเบียบและมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าที่จะส่งเข้าไปขาย อย่างเช่น European Green Deal อันเป็นนโยบายของภูมิภาคยุโรปที่มุ่งลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลให้เกิดการแบนส่วนประกอบบางประเภททั้งในสินค้าและบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
