GGC มั่นใจปีนี้รายได้โตขึ้นกว่าปีก่อน หลังปรับปรุงโรงงานเพิ่มประสิทธิภาพและจัดหา Feed Stock ที่มีราคาถูกลง พร้อมเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนผลิตกรีนดีเซล และไบโอพลาสติก
นายไพโรจน์ สมุทรธนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทคาดรายได้รวมเติบโตขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 20,995.23 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับปรุงโรงงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากและจัดหา Feed Stock ทางเลือกที่มีราคาถูกลงทำให้แข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทจะบริหารจัดการสต๊อกได้อย่างเหมาะสม หรือไม่สูงและต่ำจนเกินไป จากการผลิตที่ค่อนข้างนิ่ง ซึ่งปัจจุบัน GGC มีปริมาณสินค้าคงคลังราว 25 วัน ส่วนด้านการตลาดก็มีการประสานงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยยอมรับว่าการแข่งขันตลาดไบโอดีเซล (B100) รุนแรง และราคาเอทานอลยังต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล แต่คาดว่าปีนี้จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็เตรียมนำดิจิทัลมาปรับปรุงการผลิต รวมทั้งคิดวิธีการใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งบริษัทเตรียมรุกธุรกิจใหม่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อลงทุนผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ กรีนดีเซล (Bio Hydrogenated Diesel: BHD) รวมทั้งไบโอเคมิคอลและไบโอพลาสติก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการผลิตกรดซัคซินิค (succinic acid) เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกชีวภาพ
นายไพโรจน์กล่าวว่า ด้านโครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 1 ปัจจุบันได้เริ่มเดินเครื่องแล้ว และเริ่มหีบอ้อยแล้วประมาณ 2 แสนตัน โดยระยะต่อไปจะดำเนินการผลิตเอทานอล คาดว่าจะผลิตได้ปลายเดือนมี.ค.นี้ ส่งผลให้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้