xs
xsm
sm
md
lg

MC ปูพรม 100 เอาต์เลต ซุ่มร่วมพัฒนา "เวลาเวิร์ส"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“MC” มั่นใจผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังปี 65 เติบโตต่อเนื่อง คาดทั้งปีกำไรเติบโตเลข 2 หลัก ชูจุดแกร่ง “Cash Rich-Zero debt” เดินหน้ารุกธุรกิจตามแผนกลยุทธ์หลัก กำเงินสดในมือเกือบ 2,000 ล้าน สร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้านผู้ถือหุ้นมีลุ้นรับเงินปันผลเพิ่มขึ้น หลังนำหุ้นซื้อคืน 8 ล้านหุ้นมาลดทุน

นายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบัญชีและการเงิน บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทงวดครึ่งหลัง ปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย. 2565) มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และคาดว่าทั้งปีกำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตในเลข 2 หลัก หรืออย่างน้อย 10% ส่วนรายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จากการขาย 3,248.82 ล้านบาท

“ภาพรวมเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมค้าปลีก การบริโภค ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทยังสามารถเติบโตได้ดี โดยเฉพาะงวดไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 847% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 23.59 ล้านบาท และงวดครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 254 ล้านบาท” นายปิยะกล่าว

นายปิยะกล่าวว่า การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์หลักที่วางไว้ เช่น การขยายสาขา Mc Outlet ภายในสถานีการบริการน้ำมันของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR ) ให้ครบ 70 สาขา โดยจะเปิดเพิ่มอีก 11 สาขา จากสิ้นงวดครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 59 สาขา รวมถึงการขยายสาขารูปแบบอื่นๆ ด้วย โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 45-50 ล้านบาท และดำเนินการควบคู่ กับการขยายบริการและช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์และออนไลน์

อย่างไรก็ตาม Mc Outlet ถือเป็นช่องทางการขายที่ทำให้บริษัทเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรสูงขึ้นเพราะมี Economy of scale โดยคาดว่ายอดขาย จาก Mc outlet จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 10% จากเดิม 8% ของยอดขายรวมทั้งหมดและมีเป้าหมายจะขยายให้ครบ 100 สาขาในอนาคต เพื่อเป็นอีกหนึ่งร้านค้ากลยุทธ์สำคัญของบริษัทในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ
 


นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้เน้นกลยุทธ์โดยให้ความสำคัญต่อเรื่องของ “แบรนด์” มากกว่าการใช้กลยุทธ์โปรโมชันลดราคา ควบคู่กับการลดต้นทุนรอบด้าน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่ โดยงวดไตรมาส 2 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65.01% เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 60.5% ส่วนงวด ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 64% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 60.4% โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับดังกล่าวให้ได้ในงวดครึ่งปีหลัง

สำหรับการบริหารสินค้าคงคลัง บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะลดมูลค่าสินค้าคงคลังให้เหลือ 1,000 ล้านบาท ณ สิ้นงวดบัญชีปี 2565 จาก 1,278 ล้านบาท เมื่อสิ้นงวดปีก่อน โดย Mc Outlet คือหนึ่งในช่องทางขายสำคัญของการบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการทำกำไรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นด้วย

นายปิยะกล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 10 มี.ค.นี้ ผู้ถือหุ้น MC จะได้รับเงินปันผลหลังคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.32 บาท คิดเป็นอัตราการจ่าย 100% ของกำไรสุทธิและผู้ถือหุ้นมีโอกาสจะได้รับปันผลสูงขึ้น หลังบอร์ดอนุมัติให้นำหุ้นซื้อคืนจำนวน 8 ล้านหุ้นหรือ 1% ของหุ้นชำระแล้ว มาลดทุนจดทะเบียนหลังครบกำหนดระยะเวลา ซึ่งผลจากการลดทุนจะทำให้ EPS เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มขึ้นในจำนวนเดียวกับจำนวนหุ้นที่ลดไปและเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 792 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 0.50 บาท หรือมีทุนจดทะเบียน 396 ล้านบาท จากเดิม 800 ล้านหุ้น หรือ 400 ล้านบาท

นายปิยะกล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือกว่า 1,997 ล้านบาทและไม่มีหนี้สิน ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่น ทำให้มีโอกาสขยายการลงทุนในกิจการใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัท หรือขยายธุรกิจในโลกดิจิทัลในอนาคต เช่น แพลตฟอร์ม NFT Marketplace เพราะ MC เองเราทำในเรื่องของแฟชั่นอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้เข้าไปจับมือ Class Cafe เพื่อพัฒนาเมตาเวิร์สภายใต้ชื่อ “เวลาเวิร์ส” (Velaverse) เป็นต้น และในอนาคตอาจเห็น Jeans Street in Metaverse ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น