นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) พร้อมด้วย นายวสันต์ ชิงชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตที่ 12 นายสุวัฒน์ ชำนาญกิจ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ) ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านห้วยหิน หมู่ที่ 3 ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดมหาสารคาม ผู้อำนวยการกลุ่มงานทุกกลุ่ม เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ และกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านห้วยหิน ร่วมให้การต้อนรับ
การดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านห้วยหิน ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2530 มีสมาชิก จำนวน 38 คน ดำเนินตามแนวทางการดำเนินงานของกรมการพัฒนาชุมชน เนื่องจากขณะนั้นประชากรของหมู่บ้านมีความยากจน จึงได้ดำเนินกิจกรรมของกลุ่มโดยรวมเงินเป็นกองทุน และส่งเสริมให้สมาชิกรู้จักประหยัด อดออม โดยการรับฝากเงินสัจจะจากสมาชิก โดยดำเนินกิจกรรมรับฝากเงินสัจจะจากสมาชิก และได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน เกิดความเข้มแข็ง มีสมาชิกทั้งหมด 315 คน บริหารจัดการกลุ่มจนสามารถจัดสรรสวัสดิการ และดำเนินกิจกรรมเครือข่าย ตามมติความต้องการของสมาชิกกลุ่ม โดยเริ่มจากการจัดตั้งศูนย์สาธิตการตลาด โรงสีข้าว ธนาคารข้าว ปุ๋ยอินทรีย์ ธนาคารชุมชน บริการระนวดข้าว ปั๊มน้ำมัน และรถไถฟอร์ด โรงน้ำดื่มชุมชน และมีการจัดสรรผลกำไรประจำปี ตลอดจนการจัดสวัสดิการเพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่างๆ เช่น ทุนการศึกษา ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านห้วยหิน หมู่ที่ 3 ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในทะเบียนของกรมการพัฒนาชุมชน โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอนาเชือก และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ให้การสนับสนุนส่งเสริม กลุ่มได้ยึดหลักการและระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ จนสามารถจัดสรรผลกำไร และดำเนินกิจกรรมตามความต้องการของสมาชิก และจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิก นับว่าเป็นกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตที่มีความเข้มแข็งและเป็นแบบอย่างที่ดี
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ถือเป็นงานสำคัญที่กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2517 เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนร่วมกันออมเงิน และบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชน โดยยึดหลักคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ ซื่อสัตย์ เสียสละ รับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจ และไว้วางใจ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในชุมชนให้มีการดำเนินชีวิตและเรียนรู้การทำงานร่วมกันในรูปแบบกระบวนการกลุ่ม และใช้ "สัจจะออมทรัพย์" เป็นเครื่องมือในการสร้างวินัยการออมของสมาชิก และในโอกาศครบ 48 ปี ทางกรมฯ ก็ได้มีนโยบาย "หนึ่งพัฒนากร หนึ่งกลุ่มออมทรัพย์ " ซึ่งจะสามารถสร้างสังคมแห่งการออมให้เกิดขึ้นเป็นจำนวนไม่น้อย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ชีวิตของประชาชนชาวไทยได้มีสวัสดิการ ช่วยลดปัญหาหนี้สิน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตน ซึ่งกลุ่มที่ประสบความสำเร็จไม่ได้วัดที่มีเงินน้อยหรือมาก แต่อยู่ที่การดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม และการจัดสรรสวัสดิการเพื่อสมาชิก การดำเนินการตามระเบียบและหลักการของกรมการพัฒนาชุมชน รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว