xs
xsm
sm
md
lg

CMO แปลงร่าง จากอีเว้นท์สู่เทคโนโลยี ทุ่ม 800ล. เพิ่ม 2ธุรกิจ สู่เป้า 2.5พันล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 -CMO จัดทัพองค์กรใหม่ดัน Market Capโตกว่าหมื่นล้านยกระดับจากอีเว้นท์สู่บริษัทเทคโนโลยีในรูปแบบของ EXPERIENCE-TECH CREATOR ล่าสุดอัด 800 ล้านบาทเพิ่ม 2 ธุรกิจใหม่ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์และเทคโนโลยี สู่เป้าหมาย 2,500 ล้านในปีนี้


นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า CMO มีพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งและปรับตัวได้รวดเร็วทำให้ยังคงมีรายได้หลักหลายร้อยล้านบาท และเคยพุ่งสูงกว่า 1,300ล้านบาทในปี 2562 ด้วยเหตุนี้ CMO จึงเป็นองค์กรที่มีฐานที่มั่นคงเมื่อเทียบกับธุรกิจเดียวกันในตลาด และจากการเข้ามาของผู้บริหารชุดใหม่ที่เน้นเติมเต็มธุรกิจเทคโนโลยีพร้อมการเติบโตแบบก้าวกระโดด  พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี จากเดิมที่เราเป็นผู้นำในโลก 1.0 ที่เน้นในเริ่องธุรกิจอีเว้นท์เป็นหลัก จากนี้จะขยายธุรกิจดิจิตัล (Web 2.0) และประสบการณ์ในโลก Blockchain และ Metaverse (Web 3.0)

“ภาพของ CMO จากเดิมที่ทำธุรกิจอีเว้นท์แบบอนาล็อก จากนี้จะก้าวสู่บริษัทด้านเทคโนโลยีโดยยังคงมีรากฐานธุรกิจหรือคอร์บิซิเนสเป็นอีเว้นท์ที่จะต่อยอดด้วยเทคโนโลยีให้บริการครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มแบบครบวงจร 360 องศา ภายใต้งบลงทุน 800 ล้านบาทที่จะเพิ่ม 2 ธุรกิจใหม่ คือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์และเทคโนโลยีมั่นใจดัน Market Capโตกว่าหมื่นล้านบาทในปีนี้ และภายในปี 2566 กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักต่อไป ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 60%” นายกิติศักดิ์ กล่าว


ด้านนายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า CMO จากเดิมเราเป็น Event Organizer สิ่งที่เราจะมอบให้ลูกค้า (B2B และ B2C) เป็น Total Solution ประกอบด้วย Creativity และ Technology เพื่อเป็น Experience ในยุคใหม่ จึงเป็นที่มาของนิยาม “EXPERIENCE-TECH CREATOR” ภายใต้โครงสร้าง 5E ได้แก่

ธุรกิจหลักเดิม คือ 1.EVENT มีแผนเติบโตด้วย Homegrown Experience Brand และจับมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อสร้างงานระดับ World-class Experienceในประเทศไทยดึงดูดนักเดินทางจากต่างประเทศ และ Scale Up เพื่อส่งออกแบรนด์ได้ในอนาคต และ2.EQUIPMENT เราจะยกระดับอุปกรณ์แสงเสียงภาพให้ครอบคลุมทุกรูปแบบกิจกรรม ตั้งแต่อีเว้นท์สตูดิโอและคอนเสิร์ตระดับโลก ด้วยการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ


ตามมาด้วย 3 ธุรกิจใหม่ คือ 3. ENTERTAINMENT ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งด้าน In-bound Live Entertainment Experience พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงเต็มตัวเพื่อสร้างความบันเทิงเต็มรูปแบบทั้งระดับเอเชียและระดับโลก พร้อมดึงงานระดับ World Festival เข้ามาในประเทศไทย และยังมีแผนสร้าง Original Content ในนาม CM Entertainment

4.END-TO-END 2.0 เป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการตลาดครบวงจรที่เราควบรวมเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ได้แก่ Digital Agency, Social Listening, Influencer Platform, Employee Engagement Platform และ CRM

และ5.EXPERIENCE 3.0 เป็นกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่ตอบโจทย์ธุรกิจแห่งอนาคต ประกอบด้วย Metaverse Studio ซึ่ง CMO ได้ร่วมมือกับบริษัท Blockchain ระดับโลก รวมถึงการสร้าง Digital Assets ที่มาเชื่อมโยงกับธุรกิจบันเทิง และ Decentralized commerce เป็นต้น


ล่าสุดบริษัทพร้อมจับมือกับ Strategic Tech Partner 6 รายเพื่อเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ประกอบด้วย 1.Transformational เป็นบริษัทที่ทำเรื่องของ Digital Transformation 2.Brand Baker เป็นบริษัทด้าน Digital Agency 3.Shopgenix เป็นบริษัทที่ทำในเรื่องของ Affiliate Commerce 4.WeLink บริษัทด้าน Loyalty Platform 5.Redex เป็นบริษัทด้าน Employee Engagement Platform และ6.ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ แต่เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน Social Listening & CRM Platform

ทั้งนี้เชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวจะพา CMO ก้าวไปสู่การทำธุรกิจระดับเอเชียและระดับโลกต่อไป หรือในปีนี้บริษัทจะมีรายได้ 2,500 ล้านบาท มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจเดิม (อีเว้นท์และอีควิปเม้นท์) 70% มูลค่า 1,300-1,500 ล้านบาท 2.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ 20% มูลค่า 500-800 ล้านบาท และ3.เทคโนโลยี 10% มูลค่า 400-500 ล้านบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น