xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็นทรัล รีเทล” เพิ่มแผนลุย M&A ดัน MEB เว็บไซต์นิยายเข้าตลาดหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC เร่งเครื่องเต็มสูบ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวดี ส่งผลให้ยอดขาย Same Store Sales Growth (SSSG) เติบโตเป็น 2 หลัก ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี เน้นปูพรมขยายธุรกิจครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เร่งสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร พร้อมยกระดับประสบการณ์การชอปปิ้งแบบใหม่เป็น Next-Gen Omni Retail และก้าวสู่การเป็นผู้นำในโลกค้าปลีกแห่งอนาคต

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เรามั่นใจเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่ได้ประกาศไว้ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดยอดขายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และในเดือนมกราคม 2565 Same Store Sales Growth (SSSG) มีการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ยอดขายออมนิแชนเนลโดยรวมก็ยังเติบโต 2 หลักเช่นกัน ถึงแม้ว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในห้างและร้านค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่นพลิกกลับมาเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
 
สำหรับกลุ่มธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าคิดเป็น 85% ของระดับปกติก่อนช่วงการเกิดโควิด-19 และยังรักษาระดับ Occupancy Rate ได้มากกว่า 90% พร้อมเดินหน้าประเดิมเปิดศูนย์การค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ รูปแบบใหม่ สาขาบ้านฉาง จังหวัดระยอง ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ และเปิด GO! ไลฟ์สไตล์มอลล์ เมืองหล่าวกาย (Lao Cai) ประเทศเวียดนามในเดือนเมษายน รวมถึงศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพิ่มอีก 2 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง


โดยทั้งหมดเราจะมีศูนย์การค้า 73 แห่ง ภายในสิ้นปี 2565 สำหรับธุรกิจฮาร์ดไลน์จะมีการขยายสาขาไทวัสดุเพิ่มอีก 10 แห่ง โดยจะเปิดสาขาแรกที่จังหวัดชัยภูมิ ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ตอกย้ำการเป็นผู้นำบนแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลของธุรกิจฮาร์ดไลน์ในไทย

“เซ็นทรัล รีเทล มีความมั่นใจและยังคงอัดแผนลงทุนเพื่อขยายธุรกิจที่มีอยู่ และเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งมีแผนที่จะร่วมมือกับผู้นำในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ และเพิ่มแผน Mergers & Acquisitions ทั้งในไทยและเวียดนาม มากขึ้น นอกจากนั้นเรายังคงตั้งเป้าที่จะนำ MEB ผู้นำในธุรกิจ E-Book และเว็บไซต์อ่านนิยายของไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ โดยเรามุ่งเน้นที่จะนำธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล และพันธมิตรทั้งหมด สู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” นายญนน์กล่าว

ปัจจุบันบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,599 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เกต, ไฮเปอร์มาร์เกต, พลาซา และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel


ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟูด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!)

(3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ Brandshop ต่างๆ และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 57 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 40 จังหวัด และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564)


กำลังโหลดความคิดเห็น