กรมเจ้าท่า แจ้งความ SPRC เพิ่มฐานทำผิดซ้ำฝ่าฝืนคำสั่งระงับใช้ท่าเรือ ทำน้ำมันดิบค้างท่อรั่วไหล รั่วจุดเดิม เร่งกำจัดคราบแล้วไม่กระทบชายฝั่งระยอง เตรียมเพิ่มมาตรการ เพิ่มความถี่ตรวจเช็กท่อน้ำมันเก่า
กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ชี้แจงว่า จากที่ได้รับแจ้งจาก บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) SPRC ที่ได้ดำเนินการขยับท่อ เพื่อตรวจสอบท่อบริเวณจุดรั่วทุ่นผูกจอดเรือ SPM (single point mooring) ทำให้เกิดเหตุน้ำมันดิบที่ค้างท่อเดิมไหลออกสู่ทะเลเพิ่มเติม ซึ่งจากการประมาณการ มีปริมาณน้ำมัน 5000 ลิตร บริษัท SPRC ได้ดำเนินการเข้าล้อมบูมและดำเนินการเร่งจัดเก็บคราบน้ำมันดังกล่าวฯ เรียบร้อยแล้ว และจะมีการเฝ้าระวังต่ออีก1-2 วัน
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง ออกประกาศกรมเจ้าท่า ให้ระมัดระวังการเดินเรือและระมัดระวังความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเดินเรือผ่านบริเวณดังกล่าว
พร้อมกันนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด ในการกระทำผิดซ้ำ เนื่องจาก ฝ่าฝืนคำสั่งระงับใช้ท่าเรือ และก่อให้เกิดมลพิษทางทะเล ซึ่งมีความผิดตามมาตร 119 ทวิ ตามพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย และมีความผิดเพิ่มเติมในการดำเนินการที่ขัดต่อคำสั่งเจ้าพนักงาน มาตร 297 มีความผิดทางคดีอาญา โทษ จำคุกไม่เกิน 3เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
พร้อมกันนี้กรมเจ้าท่ามีหนังสือแจ้งให้บริษัทฯ ดำเนินการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในระดับ Tier 1 ที่มีระดับปริมาณรั่วไหลไม่เกิน 20 ตัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างขนถ่ายน้ำมัน ผู้ที่ทำให้เกิดน้ำมันรั่วไหลต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการขจัดคราบน้ำมัน หรือขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ ได้ทำการแจ้งให้กรมเจ้าท่าทราบแล้ว พร้อมแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดระยองรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเตรียมการรองรับเหตุที่เกิดขึ้นกรณีหากคราบน้ำมันขยายวงกว้าง
สำหรับการดำเนินการตามแผนขจัดคราบน้ำมัน กรมเจ้าท่า ได้ให้บริษัทเข้าระงับเหตุดังกล่าว อาทิ การล้อมบูม จัดเรือสนับสนุน และรายงานผลการทำงานให้กรมเจ้าท่าทราบทันที ในส่วนของกรมเจ้าท่า ได้ทำการจัดเรือตรวจการณ์เข้าสนับสนุน พร้อมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ปัจจุบันบริษัทฯสามารถระงับเหตุการณ์ได้แล้ว และจะดำเนินการฟื้นฟูตามมาตรการ พร้อมประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมันต่อไป
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้สั่วการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง ทำ หนังสือแจ้งให้บริษัท ตั้งThird Party ที่เป็นคนกลางที่สังคมยอมรับ เช่น สภาวิศวกรแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนดำเนินการใดๆ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า จุดรั่วไหลครั้งนี้ เป็นจุดเดิมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่จุดใหม่ ที่เกิดเหตุเพราะมีการขยับท่ออ่อน โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเกิดการรั่วของน้ำมันค้างท่อ โดยอยู่ห่างออกไปจากฝั่ง ประมาณ10 ไมล์ทะเล หรือเกือบ 20 กม. และได้กำจัดคราบน้ำมันเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง ซึ่งกรมเจ้าท่าได้กำชับเรื่องการกำกับดูแลเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งท่อที่เกิดการรั่วไหลดังกล่าว มีอายุใช้งาน 25 ปี โดยการตรวจสอบการใช้งานช่วง 10 ปี แรกจะมีการตรวจสอบทุกปี ช่วง 10-15 ปี ตรวจทุก 9 เดือน และช่วง 15-20 ปี ตรวจทุก 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งจะมีการพิจารณาให้เหมาะสมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดเหตุค้อนข้างน้อยโดยเฉพาะกิจการประเภทนี้ ก่อนที่กรมเจ้าท่าจะอนุญาตเรื่องสิ่งล่วงลำลำน้ำให้นั้น จะต้องผ่านการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) จาก สผ.ก่อน ซึ่งใน สผ.มีผู้เชี่ยวชาญหลายด้านทั้งมาตรฐานของท่อ มาตรฐานระบบความปลอดภัย มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และยังต้องปฎิบัติตามมาตรฐานสากบ ในเรื่องการควบคุมดูแลอีกด้วย