xs
xsm
sm
md
lg

‘อิมแพ็ค’ พับโปรเจกต์หมื่นล้าน โควิดทำเจ็บปีละ 400 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - โควิดตัวร้าย ทำ "อิมแพ็ค" เจ็บปีละ 400 ล้าน แถมยังต้องพับโปรเจกต์หมื่นล้านไปก่อน เวลานี้มุ่งทำในสิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุด โฟกัสธุรกิจให้เช่าพื้นที่ รวมถึงต่อยอดธุรกิจอื่นๆ มาเสริมพอร์ต หันมาสร้างคอนโดฯ ขายเองบริหารเอง เปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร เปิดร้านอาหารจีน รอเวลาเศรษฐกิจฟื้นตัวกำลังซื้อมีสตางค์ พร้อมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

‘อิมแพ็ค’ เดินในเส้นทางศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมจนก้าวสู่ปีที่ 23 ในปี 2565 นี้ ซึ่งตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้น ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่อิมแพ็คมีรายได้ตกต่ำที่สุดแล้ว เหตุเพราะโควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถจัดงานได้ หรือจัดได้น้อยมาก ทำให้ปี 2564 (เม.ย. 63-มี.ค 64) มีรายได้เพียง 1,102.56 ล้านบาท เทียบได้ 50% กับปี 2563 (เม.ย. 62-มี.ค. 63) ที่ปิดไป 2,294.76 ล้านบาท ซึ่งก่อนที่เราจะได้รู้จักกับไวรัสตัวร้ายโควิด-19 ในปี 2562 นั้น อิมแพ็คทำรายได้สูงถึง 2,445.35 ล้านบาท ดังนั้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมาโควิด-19 ทำอิมแพ็คสูญเสียรายได้ไปกว่า 800 ล้านบาท หรือต้องเจ็บเพราะโควิดไปปีละ 400 ล้านบาท

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อิมแพ็คมีจำนวนการจัดงานน้อยมาก เพราะสถานการณ์โควิด และกฎของทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ห้ามการจัดงาน ส่งผลให้ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาอิมแพ็คมีการปรับแผนรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงได้ร่วมสนับสนุนพื้นที่เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนาม จนพอที่จะกลับมาจัดงานได้บ้างในช่วงปลายปีก่อน อีกทั้งยังมีการลงทุนเพิ่มเซอร์วิสใหม่ๆ เข้ามาช่วย เช่น จัดออนไลน์บิสิเนสแมตชิ่ง, จัดออนไลน์มีตติ้งนอกสถานที่ รวมถึงเติมอุปกรณ์ใหม่ๆ ในห้องประชุม เป็นต้น


ทั้งนี้ จากข้อมูลสรุปภาพรวมจากฝ่ายขาย พบว่าปี 2564 มียอดจองพื้นที่จัดงานจำนวน 296 งาน ลดลง 54% เทียบกับปี 2563 และของปี 2563 ที่มี 644 งาน ยังลดจากปี 2562 ถึง 42% โดยปี 2562 มีกว่า 1,107 งาน และเมื่อแยกจำนวนงานที่จัดในปี 2564 แล้วพบว่าเป็นภาครัฐ 39 งาน คิดเป็น 13% ภาคเอกชน 246 งาน คิดเป็น 83% ส่วนคอนเสิร์ตไทย และคอนเสิร์ตต่างชาติ ไม่มีการจัดงานเลย

“งานที่จัดส่วนใหญ่จะเป็นของภาคเอกชน ที่แนวโน้มการจัดงานนั้นส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่ลดลง รวมถึงผู้เข้าร่วมจัดงานก็ลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs หายไปเยอะมาก อันเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโควิด-19 รวมถึงผู้เข้าร่วมที่เป็นกลุ่มต่างชาติก็หายไปเกือบหมด”

ทั้งนี้ ทางฝ่ายขายยังระบุไว้ด้วยว่า ผลกระทบโควิด-19 มีผลต่อการจองพื้นที่จัดงานจากต่างประเทศ โดย 1. งานประเภท Incentive ยกเลิกการจัดงานทั้งหมด 2. งานประเภท Internation Convention ยกเลิกการจัดงานทั้งหมด 3. งานประเภท Exhibition (Trade) เลื่อนการจัดงานทั้งหมด และ 4. งานประเภท Concert โดยศิลปินจากต่างประเทศต้องเลื่อนหรือยกเลิกทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทได้ชะลอโปรเจกต์ใหญ่มูลค่าหลายพันล้านบาทตรงพื้นที่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี กับพื้นที่ 300 ไร่ ไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นกลับมาเสียก่อนจึงจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง ขณะที่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ทางบริษัทมีความพร้อมลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งโปรเจกต์ใหญ่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานีนี้ เดิมเมื่อ 2-3 ปีก่อนโปรเจกต์นี้มีมูลค่าหลายพันล้านบาท แต่ปัจจุบันน่าจะสูงกว่านั้นมาก เฉพาะเอ็กซิบิชันก็มีมูลค่า 6,000 ล้านบาทแล้ว กับพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ยังไม่รวมรีเทล, โรงแรม, เรสซิเดนเชียล และออฟฟิศบิลดิ้ง เป็นต้น

และจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้สถานการณ์รวมยังไม่ฟื้นตัว และกว่าจะกลับมาคงต้องใช้เวลา การลงทุนในช่วงนี้จึงอาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี เพราะทำไปแล้วไม่มีดีมานด์ก็ไม่คุ้ม รอให้ทุกอย่างกลับมา แล้วค่อยมาลงทุนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ดังนั้นเวลานี้จึงไม่มุ่งลงทุนใหญ่ แต่จะเน้นในสิ่งที่ถนัด คือ การบริหารพื้นที่ จึงขอโฟกัสธุรกิจให้เช่าพื้นที่เป็นหลัก รวมถึงลงทุนในส่วนของธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเติมด้วย

ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารนั้น ในปีที่ผ่านมามีเปิดร้านกาแฟ The Coffee Academics ที่เมกะบางนา และเมื่อต้นปีนี้ได้เปิดร้านอาหารจีน Hei Yim ที่เกษร วิลเลจ รวมถึงยังเปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร ในพื้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วย


นายพอลล์กล่าวต่อว่า ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้จะเน้นมุ่งธุรกิจให้เช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราถนัด โดยขณะนี้มียอดจองพื้นที่จัดงานปี 2565 รวม 304 งาน แบ่งออกเป็น 1. Meeting/Seminar 57 งาน 2. Exhibition (Public) 58 งาน 3. Exhibition (Trade) 15 งาน 4. Party 18 งาน 5. Wedding 46 งาน 6. Concert, Family Show 53 งาน และ 7. อื่นๆ 57 งาน

โดยงานใหม่ หรืองานเด่นๆ ที่จองพื้นที่จัดงานปี 2565 ยกตัวอย่างเช่น
- Amway NC/NLC 2022
- 43rd Bangkok International Motor Show 2022
- The 9th Print Tech & Signage Expo 2022
- The 5th Garment Screen & Embroidery Expo 2022, Architect 2022
- Thomas-Uber Cup Finals 2022
- Money Expo 2022
- Thailand Coffee Fest. 2022 Unicity's Global Leadership and Innovation Conference 2022
- Digitech Asia 2022
- 39th Thailand International Motor Expo 2022


ทั้งนี้ จากยอดจองการจัดงานพบว่าปีนี้ทิศทางการจัดงานจะเห็นแค่โลคัลอีเวนต์เสียเป็นส่วนใหญ่ ต่างประเทศโอกาสจะกลับมาร่วมงานครึ่งปีแรกค่อนข้างยาก เพราะต้องทำ Test and Go และขากลับประเทศยังต้องทำตามกฎของประเทศนั้นๆ ด้วย อีกทั้งยังไม่รู้ว่าในครึ่งปีแรกนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นและรุนแรงอีกหรือไม่ ขณะที่งานโลคัลอีเวนต์ยังคงจัดกันตามแผนปกติ แต่กลุ่ม SMEs หายไปเยอะ คนมาจัดงานจึงน้อยลง ทำให้พื้นที่การจัดงานมีขนาดลดลง ส่วนครึ่งปีหลังนั้นน่าจะเห็นความชัดเจนขึ้น ทั้งในเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 และการกลับมาของนักท่องเที่ยว การจัดงานที่มีกลุ่มต่างชาติน่าจะกลับมามากขึ้น โดยเชื่อว่าในปี 2566 จำนวนงานน่าจะกลับมาเป็นปกติ หรือใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมาได้

อย่างไรก็ตาม งานใหญ่ในปีนี้อย่างที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกนั้น ทางอิมแพ็คเองก็ได้เข้าร่วมบิตให้ได้เป็นสถานที่จัดงานด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องรอดูว่าจะได้งานนี้หรือไม่ โดยในส่วนของอิมแพ็คมีการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่กว่า 1 แสนตารางเมตรไว้เรียบร้อยแล้ว


นายพอลล์กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทยังใช้เม็ดเงินหลายพันล้านบาทในการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำเป็นคอนโดมิเนียม ในพื้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเดิมมีโครงสร้างอาคารอยู่ก่อนแล้ว จึงนำกลับมาพัฒนา ทำคอนโดมิเนียมขายและบริหารจัดการอาคารเอง โดยจะเปิดพรีเซลช่วงเดือน เม.ย.นี้ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566 ซึ่งคอนโดฯ แห่งนี้จะมีขนาด 800 ห้อง รวม 10 ชั้น พร้อมอาคารที่จอดรถ เจาะกลุ่มคนทำงานในย่านนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนหลายพันล้านบาท

จากแผนธุรกิจที่วางไว้ คาดหวังว่ารายได้ปี 2565 นี้จะกลับมาทำได้ประมาณ 70% เทียบกับปี 2562 (เม.ย. 61-มี.ค. 62) ที่ทำได้กว่า 2,445.35 ล้านบาท

"สิ่งที่ถนัดคือ บริหารพื้นที่เช่า จึงเน้นในส่วนนี้ไปก่อน โดยยังไม่มีแผนที่จะปรับขึเ้นราคาพื้นที่เช่าแต่อย่างใด ดังนั้นเวลานี้จะเน้นตลาดไมซ์ เอ็กซิบิชัน และเรสซิเดนเชียล เป็นหลัก และถ้าทุกอย่างดีขึ้นค่อยขยับการลงทุนที่เคยวางแผนไว้" นายพอลล์กล่าวสรุป


กำลังโหลดความคิดเห็น