xs
xsm
sm
md
lg

“เมดิเซเลส” ชู 3 กลยุทธ์ลุย ขยายตลาดสินค้าเฮลท์-บิวตี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - “บริษัท เมดิเซเลส จำกัด” เป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท เซเลส (ประเทศไทย) จำกัด กับ เมดิท็อกซ์ อิงค์ ผู้ผลิตยาโบทูไลนุ่ม ท็อกซิน มาตรฐานสูงอันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลี อีกทั้งยังเป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายที่ถูกต้องแต่เพียงผู้เดียวของบริษัท เมดิเซเลส จำกัด เปิดตัวนำเข้าผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มบริสุทธิ์ (ฟิลเลอร์) ใหม่ล่าสุด 2 ซีรีส์ ภายใต้ชื่อ นิวรามิส (Neuramis) ได้แก่ Neuramis DEEP Lidocaine และ Neuramis VOLUME Lidocaine ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายสุรวุฒิ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุด, นางวิภารัตน์ วูวงศ์ ประธานบริหารสูงสุด และ นางสาวอารียา วูวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เมดิเซเลส จำกัด ร่วมแถลงและขึ้นให้รายละเอียด ณ ห้องฉัตรา โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

นายสุรวุฒิ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุด บริษัท เมดิเซเลส จำกัด เปิดเผยว่า “เมดิเซเลส เราเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท เซเลส กับบริษัท Medytox จากประเทศเกาหลี (ในสัดส่วน 60/40) ประกอบธุรกิจประเภทการตลาด กระจายส่งสินค้าทางเภสัชกรรมและเครื่องมือแพทย์ โดยมีสินค้าคือ นิวรามิส (Neuramis) ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ประเภท 4 หรือเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ (Filler) ที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานและเลขทะเบียนจากองค์การอาหารและยา ประเทศไทย และประเทศต้นกำเนิดคือประเทศเกาหลี ในส่วนของเมดิทอกซ์เป็นผู้นำตลาดยาชีววัตถุ ที่รู้จักกันมานานในชื่อยา นิวโรนอกซ์ (Neuronox) ปัจจุบันเมดิทอกซ์ได้พัฒนายาชีววัตถุในรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองตลาดที่ต้องการยาที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น”


อุตสาหกรรมความงามด้วยแพทย์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงสุดติดอันดับของอุตสาหกรรมดาวรุ่ง และเชื่อว่าจะคงเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นทุกๆ ปี เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญต่อการดูแลความสวยความงามของตัวเองมากขึ้น โดยภาพรวมตลาดความงามด้วยแพทย์ของไทยในขณะนี้ กลุ่มที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ในหลายปีที่ผ่านมาคือ กลุ่มฟิลเลอร์ โดยในปัจจุบันตลาดฟิลเลอร์มีอัตราเติบโตกว่ากลุ่มท็อกซินมากกว่าถึงสองเท่า ส่วนตลาดการชะลอวัยยังคงมีอัตราการเติบโตปกติ

ปัจจุบัน เมดิเซเลสมีสินค้าหลักคือฟิลเลอร์ นิวรามิส 3 ตัว เพื่อให้แพทย์เลือกใช้สำหรับการปรับรูปหน้า สำหรับนิวโรนอกซ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนใหม่ และประเมินเอกสารชุดใหม่ที่ทันสมัย โดยกลุ่มฟิลเลอร์ ในปี ค.ศ. 2018 มี อัตราการเติบโตเฉลี่ย(CAGR) ประมาณ 15-20% และอัตราการเติบโตธุรกิจเฉพาะในปี ค.ศ. 2021 เปรียบเทียบปี ค.ศ. 2020 อยู่ที่ 30% สำหรับในปี ค.ศ. 2022 นี้มีแพลนที่จะเติบโตเป็นอัตรา 100%

ในปี 2565 นี้ทางบริษัทจะยังมุ่งทำการตลาดทั้งในส่วน ออฟไลน์ที่เข้าถึงแพทย์ได้มากขึ้น และจะเน้นการทำออนไลน์เพิ่มเพื่อโฟกัสการเข้าถึงให้ได้ง่ายขึ้น โดย
1. ให้ความรู้วิชาการแก่แพทย์ผ่านการบรรยายออนไลน์ เช่นการจัด Webinar และยังคงมีการให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ Hands on โดยมีการนำเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่นเทคโนโลยีทำภาพ 3 มิติด้วยเครื่อง Morpheus ที่ในประเทศไทยมีใช้เฉพาะในโรงเรียนแพทย์ เข้ามาร่วมเพื่อสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจในผลลัพธ์สุดท้ายของการรักษา
2. Focus ฐานลูกค้าเดิม เนื่องจากคุ้นเคยกับตัวสินค้าเป็นอย่างดี โดยเน้นให้สิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น ในส่วนทีมขายเน้น Maintain Relationship กับลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ เช่นการศัลยกรรมที่ใช้ประโยชน์จาก ฟิลเลอร์ได้กว้างขึ้น
3. ใช้ Social Media มากขึ้นสำหรับการสร้างการรับรู้ในตราสินค้า (อันดับ 2 ในประเทศไทยจากการสำรวจ) และส่งเสริมความเข้าใจเชิงลึกผ่านทาง Facebook, Line open chat, Line official เป็นต้น


ล่าสุดกับการเปิดตัวนิวรามิส 2 ซีรีส์ใหม่ ได้แก่ Neuramis DEEP Lidocaine และ Neuramis VOLUME Lidocaine นายสุรวุฒิกล่าวว่า “เพื่อให้มีตัวเลือกใช้มากขึ้น, แพทย์ หรือเพิ่มฐานลูกค้า กลุ่มเป้าหมายจึงยังคงเป็นกลุ่มแพทย์ทั่วไป, แพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์ผิวหนัง, ศัลยแพทย์ตกแต่ง, ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า, ทันตแพทย์, คลินิกเสริมความงาม นอกจากนี้จะมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยปัจจุบันมีคลินิกความงามที่ใช้สินค้าของบริษัทฯ กว่า 2,000 คลินิกทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากโปรแกรมการตลาดที่ทำให้การใช้งานได้ในหลายบริเวณของร่างกาย จึงมีโอกาสอีกมากที่ธุรกิจของเราจะเติบโตขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้าในการที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดฟิลเลอร์เกาหลี ในประเทศไทย ซึ่งฟิลเลอร์ทั้งสามตัวได้จดทะเบียนในยุโรปตามมาตรฐาน CE Mark และ EC Certificate ปัจจุบันสินค้าได้กระจายในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, ตุรกี เป็นต้น อีกทั้งยังมุ่งหวังให้นิวรามิสทั้ง 2 รุ่นใหม่เหมาะต่อลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งคลินิกเดี่ยว, Chain Clinic รวมถึงสถานพยาบาลเอกชน และด้วยความร่วมมือของ CET พันธมิตรด้านการกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย โดยในปีนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะทำการตลาดสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดความงาม และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น Botulinum toxin และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายชนิด


และเนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมาย การละเมิดเครื่องหมายการค้า และการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ตัวยา จึงควรสังเกตจุดวิธีตรวจสอบดังนี้

• ใบ certificate ที่บริษัทฯ มอบให้คลินิกที่ผ่านการอบรมเพื่อยืนยันว่าคลินิกหรือสถานพยาบาลนั้นได้ซื้อสินค้าจากเมดิเซเลส ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Neuramis ฟิลเลอร์อย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
• สแกน QR code บนกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งภายในจะแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งรุ่นผลิต วันเดือนปีที่หมดอายุ และข้อความยืนยันว่าซื้อผ่าน เมดิเซเลส ที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าและจัดหน่ายอย่างถูกต้องในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
• Security sticker บนกล่องบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้รับบริการว่าเป็นสินค้าใหม่ ยังไม่ผ่านการเปิดใช้ และยังป้องกันการปลอมแปลงสินค้าโดยใช้กล่องเดิม
• บรรจุภัณฑ์ต้องมีฉลากกำกับเครื่องมือแพทย์ภาษาไทย และเลขทะเบียนเครื่องมือแพทย์ ตามที่ อย.กำหนดไว้


ต่อข้อซักถามกรณีการถูกระงับการนำเข้า Neuronox ที่ผ่านมา นายสุรวุฒิชี้แจงว่า “สำหรับ Neuronox ซึ่งเป็น ท็อกซิน ที่ครองใจผู้ใช้เป็นเวลานาน จากการเผยแพร่จากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับระงับการนำเข้าและเรียกคืนสินค้า โดยบริษัทได้แสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้าโดยมีการเรียกคืนสินค้าทันทีมากกว่า 700 ราย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสินค้ากว่า 110 ล้านบาท สำเร็จภายใน 30 วันทำการ และสินค้าที่ถูกเรียกคืนดังกล่าวทางบริษัทได้เผาทำลายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความสนใจที่จะนำ Neuronox กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมคืนกำไรสู่สังคม ด้วยโครงการการกุศลกับหน่วยแพทย์ที่ห่างไกลและขาดอุปกรณ์ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการทำกิจกรรม เชิง CSR ดังนี้
• ปี 2563 บริจาคตู้แช่เย็น จำนวน 25 ตู้ให้แก่จังหวัดสุโขทัย และโรงพยาบาลอำเภอในเขตเชียงใหม่ มูลค่ามากกว่า 5 แสนบาท โดยโรงพยาบาลดังกล่าวสามารถนำตู้แช่นี้ไปใช้เก็บรักษาวัคซีน, น้ำยาตรวจต่างๆ เป็นต้น
• ปี 2564 บริจาคชุดตรวจ ATK จำนวน 2,000 ชุด ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3 แสนบาท ให้แก่สมาคมเทควันโดประเทศไทย, สมาคมเทควันโดคนพิการ, โรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลนาน้อย เวียงสา จังหวัดน่าน
• สำหรับยานิวโรนอกซ์ หากบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติทะเบียนยา บริษัทฯ มีความตั้งใจจะช่วยให้ผู้ป่วยเด็กสมองพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เช่น วิ่งเล่นกับเพื่อนได้ เป็นต้น โดยการบริจาคยาให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท เวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับการให้การรักษาเด็กสมองพิการ ผ่านองค์กรการกุศลหรือสถาบันการแพทย์ด้านเด็กสมองพิการ เช่น รพ.ศรีสังวาลย์ ปทุมธานี, สถาบันราชนครินทร์ รพ.นครพิงค์ เชียงใหม่ จำนวน 500 คน
____________________________________________________________









กำลังโหลดความคิดเห็น