กบน.ไฟเขียวกองทุนน้ำมันชดเชยราคาดีเซลเพื่อตรึงราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเพิ่มอีก 70 สตางค์ต่อลิตร มีผล 3 ก.พ.เป็นต้นไป ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯควักอุ้มดีเซลสูงถึงลิตรละ 3.79 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันที่ 2 ก.พ. 2565 ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้เห็นชอบใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคากลุ่มดีเซลเพิ่มอีกลิตรละ 70 สตางค์ มีผลตั้งแต่ 3 ก.พ.เป็นต้นไป ส่งผลให้การชดเชยกลุ่มดีเซลเพิ่มจาก 3.09 บาทต่อลิตรเป็น 3.79 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ เนื่องจากผลจากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงเพิ่มสูงขณะที่รัฐมีนโยบายตรึงราคากลุ่มดีเซล B7 ที่เป็นเกรดเดียวเอาไว้ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าเมื่อ 2 ก.พ.ติดลบ 0.119 บาทต่อลิตร โดยส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันโดยเฉพาะ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก กับ บมจ.บางจากปิโตรเลียมที่ยังคงตรึงราคาดีเซลไว้ตามนโยบายต้องแบกรับภาระมากขึ้น มาตรการครั้งนี้จึงเป็นการผ่อนคลายภาระผู้ค้าที่จะยังคงดำเนินนโยบายตรึงดีเซล 30 บาทต่อลิตรได้ต่อไป แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้เห็นชอบในการลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซล (B100) ในดีเซลให้เหลือไม่ต่ำกว่า 5% และสูงสุดไม่เกิน 7% มีผลตั้งแต่ 5 ก.พ.-31 มี.ค.แล้วแต่ก็ช่วยลดต้นทุนได้เพียง 50-60 สตางค์ต่อลิตร
ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2565 กองทุนฯ ติดลบ 14,080 ล้านบาท โดยเป็นการไหลออกจากการตรึงราคา LPG ไว้ไม่เกิน 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม 1,900 ล้านบาทต่อเดือน และเงินไหลออกจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อเดือน
รายงานข่าวจากวงการค้าน้ำมันระบุว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบน่าเป็นห่วงเพราะคาดจะทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องและหากรัฐบาลยังมีนโยบายให้บริษัทน้ำมันของรัฐทั้ง บมจ.บางจากฯ และ
OR คาดดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อไปวงเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอาจจะมีปัญหา โดยแม้รัฐบาลอนุมัติกู้ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งกู้งวดแรก 2 หมื่นล้านบาทนั้นอาจไม่เพียงพอ
สำหรับการกู้งวดแรกในขณะนี้มี 3 สถาบันการเงินตอบรับสนใจ ได้แก่ ธ.ออมสิน, กรุงไทย และกสิกรไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเลื่อนระยะเวลาการยื่นข้อเสนอออกไปจากสิ้นสุด 31 ม.ค. เนื่องจากสถาบันการเงินหลายแห่งสนใจแต่ต้องรอการตัดสินใจจากบอร์ด โดยคาดว่าเงินจะมาเสริมสภาพคล่องได้เริ่มเดือนเมษายน
