ผู้จัดการรายวัน 360 - “นารายา” ผู้นำแบรนด์กระเป๋าผ้าสัญชาติไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฝีมือการตัดเย็บประณีต ใช้วัสดุคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ ภายใต้การนำของ คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ได้จับมือกันทำโครงการพิเศษเป็นครั้งแรกกับ “โลตัส” นำโดย ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจโลตัสส์เอเชีย-แปซิฟิก (ยกเว้นประเทศจีน) นำสินค้านารายาวางจำหน่ายบนเชลฟ์ห้างโลตัส สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา ด้วยดีเอ็นเอที่ตรงกันในเรื่องการสนับสนุนอาชีพ จึงสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางขายสินค้าแบรนด์นารายา เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่นสู้โควิด-19
นางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับโลตัสในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย ด้วยเป็นครั้งแรกที่สินค้าของ “นารายา” จะวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Hypermarket จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนไทยรู้จักและหันมาใช้สินค้าของ “นารายา” มากขึ้น โดยในช่วงแรกเน้นวางสินค้าที่ใช้ง่ายๆ เช่น กระเป๋าหลากหลายรูปแบบและขนาด ผ้ากันเปื้อน รองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน ส่วนในอนาคตอาจเติบโตต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ชุดนอน เป็นต้น
ในขณะเดียวกันก็เป็นครั้งแรกของ “โลตัส” ที่ได้นำสินค้า “นารายา” แบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาสร้างประสบการณ์ชอปปิ้งที่แตกต่างให้แก่ลูกค้า โดย ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจโลตัสส์เอเชีย-แปซิฟิก (ยกเว้นประเทศจีน) กล่าวว่า ขณะนี้โลตัสกำลังทำการ “รีแบรนด์” ตัวเองใหม่เพื่อให้เป็นห้างไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ายุคปัจจุบันมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มสินค้า “นารายา” เข้ามาบนเชล์ฟโลตัส สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา จึงเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าโลตัสได้ซื้อสินค้า “นารายา” ลวดลายพิเศษที่ออกแบบสำหรับวางจำหน่ายที่เฉพาะโลตัส ไม่เหมือนกับที่ขายในร้านนารายาสาขาอื่น
อีกทั้งสองแบรนด์ยังมีค่านิยมที่ตรงกัน คือ การผลิตสินค้าของ “นารายา” เป็นงานที่มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และทำให้ชุมชนมีรายได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ คือ การยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยประชาชน และองค์กร จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ “โลตัส” ร่วมเป็นพันธมิตรที่จะเจริญเติบโตไปด้วยกันกับ “นารายา”
โดยแนวคิดในการเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 นางวาสนาได้ให้มุมมองว่า ‘สติ’ คือสิ่งที่เธอยึดเป็นหลักในการขับเคลื่อนเพื่อเดินหน้าต่อไปได้ และการจับมือกันของสองแบรนด์ นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนของสองธุรกิจผ่านการผสมผสานทรัพยากรต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาด ระบบการดำเนินงานและขยายฐานลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย โครงการนี้จึงนับว่าเป็นฟันเฟืองก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย หากใครผ่านไปผ่านมาแถวโลตัส เลียบด่วนรามอินทรา สามารถเข้าไปอุดหนุนสินค้าคุณภาพของ “นารายา” เพื่อให้โครงการเพื่อสังคมที่ดีเช่นนี้ยั่งยืนต่อไป