“ไอออน เอนเนอร์ยี่” ลุยธุรกิจพลังงานโซลาร์ครบวงจร รุกตลาดผู้ใช้ไฟรายย่อยทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัยและธุรกิจ SME ให้เข้าถึงพลังงานสะอาดฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์และค่าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป แถมจ่ายค่าไฟในราคาที่ต่ำกว่าการไฟฟ้าราว 20-50% พร้อมจับมืออสังหาริมทรัพย์ติดตั้งโซลาร์รูฟให้โครงการบ้านใหม่ โดยปี 65 ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟ 25 เมกะวัตต์ และ 5 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาท เล็งเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น
นายพีรกานต์ มานะกิจ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด หรือ ION ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาโซลูชันพลังงานโซลาร์ครบวงจรในกลุ่มบางกอกเคเบิ้ล เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายรุกธุรกิจโซลูชันโซลาร์ครบวงจร เน้นเจาะตลาดผู้ใช้รายย่อยทั้งตามที่อยู่อาศัย บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) รวมทั้งองค์กรธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงพลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์และค่าติดตั้ง โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Private PPA ที่ลูกค้าจ่ายเพียงค่าใช้ไฟตามจริงด้วยราคาที่ต่ำกว่าการไฟฟ้า 20-50% เมื่อครบสัญญา 15 ปีก็จะได้รับโอนแผงโซลาร์ให้กับผู้ใช้ไฟฟรีทำให้สามารถใช้ไฟได้ฟรีไปได้อีก 10 ปี หรือตลอดอายุการใช้งาน
ทั้งนี้ ในปีนี้ไอออนตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าควบคู่กันทั้งธุรกิจโซลาร์ภาคประชาชนแบบ PPA และรับเหมาก่อสร้าง (EPC ) คาดว่าจะมีโครงการติดตั้งใหม่รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 25 เมกะวัตต์ หรือเป็นการติดตั้งราว 2,000 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 625 ล้านบาท แบ่งเป็น PPA จำนวน 15 เมกะวัตต์ และ EPC จำนวน 10 เมกะวัตต์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยลูกค้าภาคครัวเรือนและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยตั้งเป้าหมายในระยะยาวให้มีสัดส่วนลูกค้า PPA 70% และ EPC 30%
นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตในระยะ 5 ปี (2565-2570) ในการดำเนินการติดตั้งโซลาร์โซลูชันด้วยกำลังผลิตไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมโซลาร์ที่ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจโซลาร์ภาคเอกชนแบบ PPA จะเติบโตขั้นต่ำ 30% ต่อปีหรือเติบโต 13.4 เท่า ภายใน 10 ปี จากปี 2563 ที่มีอยู่ 670 เมกะวัตต์ เป็น 9,000 เมกะวัตต์ในปี 2573 โดยไอออนจะใช้กลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในการเข้าไปติดตั้งโซลาร์โซลูชันในโครงการที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าจะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น SET หรือตลาด mai ใน 5 ปีข้างหน้า
นายพีรกานต์กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้พื้นที่บ่อกักเก็บน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้า คาดว่าจะดำเนินการภายในปีนี้
สำหรับปี 2564 บริษัทได้ทำการติดตั้งโซลาร์โซลูชันให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 400 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 5 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทเน้นเจาะตลาดลูกค้าติดตั้งโซลาร์ขนาดไม่เกิน 1 เมกะวัตต์ มีทั้งลูกค้ากลุ่ม PPA และ EPC ทั้งภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และบ้านเดี่ยว ยกตัวอย่างเช่น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด หัวหิน บริษัทโรงงานแม่รวย (ผู้ผลิตและจำหน่ายถั่วลิสง "โก๋แก่") รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกหลายแห่ง
“การเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้รายย่อยโดยเฉพาะการติดตั้งตามที่อยู่อาศัย ถือเป็นตลาดที่คู่แข่งบริษัทขนาดใหญ่ไม่สนใจลงมาแข่งขัน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีข้อจำกัดด้านเงินทุน ไอออนจึงได้ออกแบบธุรกิจเพื่อให้ปิดช่องว่างของกลุ่มนี้ด้วยการจับมือกับภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อติดตั้งโซลาร์ฟรีพร้อมบ้านใหม่ ซึ่งหากสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนให้เป็นพลังงานสะอาดจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมหาศาล จากข้อมูลจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ระบุว่าการใช้เตาไมโครเวฟ 23 ล้านครัวเรือนในอังกฤษ จะปล่อยคาร์บอนเทียบเท่า 1,200 ล้านกิโลกรัมต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณการปล่อยก๊าซจากรถยนต์ 1.3 ล้านคัน ซึ่งในที่อยู่อาศัยแต่ละแห่งก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากบ้านหนึ่งหลังสามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดก็จะสามารถลดคาร์บอนได้มากกว่าที่คาด” นายพีรกานต์กล่าว
ปัจจุบันทั่วโลกได้ให้ความสำคัญต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนที่จะนำไปสู่การมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยเห็นได้จากองค์กรต่างๆได้ออกมาประกาศตั้งเป้าหมาย Net Zero อย่างจริงจัง หน่วยงานขนาดใหญ่เริ่มปฏิรูปการใช้พลังงานรูปแบบดั้งเดิมไปสู่พลังงานหมุนเวียน ส่วนกลุ่มที่อยู่อาศัยและองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเนื่องจากราคาอุปกรณ์และการติดตั้งยังมีต้นทุนสูง ดังนั้น ไอออนจึงได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเชื่อมการเข้าถึงของผู้ใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนและองค์กรต่างๆ ให้เข้าถึงพลังงานสะอาดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์และไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
