เชลล์จับมือปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ประกาศความร่วมมือระดับภูมิภาค เปิดตัวเครือข่ายสถานีชาร์จรถอีวีข้ามพรมแดนแห่งแรกของเชลล์ในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย พร้อมเตรียมขยายมายังไทย เพื่อให้การเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เชลล์มุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์ Powering Progress ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจ E-mobility ในภูมิภาคและประเทศไทย ในฐานะบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก เชลล์ที่ได้ร่วมมือกับปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก เพื่อร่วมกันส่งมอบนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้รวมถึงประเทศไทย โดยจะเดินหน้าขยายจำนวนเครือข่ายสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Shell Recharge ให้ครอบคลุมทำเลสำคัญทั่วประเทศไทย หลังจากได้เปิดตัวเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ข้ามพรมแดนแห่งแรกของเชลล์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เมืองตังกัก รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยลูกค้าสามารถจองจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ล่วงหน้า และชำระเงินไร้สัมผัสผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และไร้กังวลตลอดเส้นทางไฮเวย์จากเหนือจดใต้พร้อมสัญจรสู่ประเทศสิงคโปร์ได้อย่างไร้อุปสรรค
“ในเร็วๆ นี้ เชลล์และปอร์เช่พร้อมจะเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงดังกล่าวมายังประเทศไทย เพื่อให้การเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยของลูกค้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายดาย”
ภายใต้ความร่วมมือนี้ สถานีบริการเชลล์จำนวน 6 แห่งในประเทศมาเลเซีย จะติดตั้งเครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง Direct-current (DC) Chargers ขนาด 180 กิโลวัตต์ ที่ให้ประสิทธิภาพการชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในประเทศมาเลเซีย โดยจะสามารถชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ ไทคานน์ จากระดับความจุแบตเตอรี่ 0 จนถึง 80% ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 30 นาที หรือคิดเป็นระยะทางสูงสุดที่สามารถเดินทางได้ถึง 390 กิโลเมตร และจะขยายเครือข่ายการให้บริการมายังประเทศไทยในเร็วๆ นี้ เพื่อให้มีเครือข่ายสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเชื่อมต่อการชาร์จในกรุงเทพฯ ตลอดจนเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ อีกหลายแห่ง นับเป็นการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Powering Progress เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593