บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชัวรีเอาต์เลตแห่งแรกของไทย เดินหน้าแสวงหาพันธมิตรที่มีแนวคิดและความเชื่อเดียวกันในเรื่อง Community at Heart หรือการใส่ใจดูแลชุมชนและคอมมูนิตีของเราให้ดีที่สุด เดินหน้าใช้ผลิตภัณฑ์ จากปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง ผู้ผลิตสินค้าออร์แกนิก ทั้งบริโภค และอุปโภค ซึ่งมีฟาร์มผลิตวัตถุดิบออร์แกนิกกว่า 30 ไร่ ในจังหวัดนครปฐมและเครือข่ายเกษตรกรสามพรานโมเดลจากทั่วประเทศ เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในศูนย์การค้า 13 สาขาทั่วประเทศ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ไร้สารเคมี ใส่ใจต่อสุขภาวะที่ดีของลูกค้าทุกเพศทุกวัย ได้รับมาตรฐานสากล IFOAM, EU และ CANADA พร้อมส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจชุมชนแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเครือข่ายชุมชนทั่วประเทศ เตรียมต่อยอดโมเดลและสร้างคอมมูนิตีแห่งความยั่งยืนในอนาคตร่วมกัน มุ่งสร้าง #Better Community หรือ คอมมูนิตีที่ดีและมีคุณภาพเพื่อทุกคน
คุณเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “เราเชื่อว่าผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวจริงก็คือ ชุมชน นั่นเอง และทุกภาคส่วนในชุมชนต้องร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ หรือ ‘Community Owning the Economy’ ดังนั้นการพัฒนาเพื่อชุมชนที่ยั่งยืนต้องช่วยให้เกิดการสร้างรายได้และสร้างงานอย่างต่อเนื่อง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเองก็เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนาศูนย์กลางการใช้ชีวิต หรือ Center of Life นี่จึงเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเซ็นทรัลพัฒนาเช่นกัน ในการจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจชุมชนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยความเชี่ยวชาญที่เรามี
ในอดีตผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมักได้รับความนิยมในกลุ่ม Niche Market และถูกนำไปใช้ในธุรกิจ Hospitality ระดับ 5 ดาว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเองเราก็เป็นหนึ่งใน touch point ที่อยู่ใกล้ลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว เราเห็นว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ที่ลูกค้าทั่วไปควรได้ทดลองใช้ เพื่อร่วมกันส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกในไทยให้เติบโตขึ้น การจับมือกับปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง จึงถือว่าเป็นการ Co-model เพื่อสร้างธุรกิจเกื้อกูลสังคมอย่างยั่งยืนที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากการได้ช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนขับเคลื่อนชุมชนและเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศแล้ว ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ยังได้ทดลองใช้ นำมาสู่การหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น การเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกในศูนย์การค้าครั้งนี้ยังถือเป็นเจ้าแรกๆของวงการและถือว่าสเกลอัพได้ในหลายสาขาทั่วประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายการเปลี่ยนแปลงที่ดี สะท้อน Brand Purpose ของเซ็นทรัลพัฒนา คือ มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน อีกด้วย”
โดยในช่วงแรกได้นำร่องด้วยการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 3 ประเภทที่ใช้ในศูนย์การค้า 13 ศูนย์ฯ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ได้แก่ แฮนด์เจล, แฮนด์วอช และแอลกอฮอล์น้ำ ใน 13 ศูนย์ฯ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล วิลเลจ, ลาดพร้าว, เวสต์เกต, บางนา, เฟสติวัล เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ขอนแก่น, ภูเก็ต, สมุย และในสาขาใหม่ล่าสุดอย่าง เซ็นทรัล ศรีราชา และ เซ็นทรัล อยุธยา โดยคำนึงถึงเหตุผล 3 ประการ ที่นับว่าเป็นประโยชน์แก่ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่
1. เพื่อลูกค้า: เปลี่ยนผ่านสู่ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเพื่อดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้สัมผัส ไร้สารเคมี ได้รับมาตรฐานด้านความสะอาดฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับมาตรฐานสากล IFOAM, EU และ CANADA
2. เพื่อชุมชน: สร้างรายได้ให้ชุมชนและเกษตรกรในเครือข่ายทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเศรษฐกิจชุมชนแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อผ่านการบริจาค 3% จากยอดขายตลอดทั้งปี ให้มูลนิธิสังคมสุขใจ เพื่อขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ต่อไป
3. เพื่อโลกและสิ่งแวดล้อม: ดูแลปกป้องโลกและสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดเกษตรอินทรีย์ ดีต่อดิน น้ำ และอากาศ และการรีฟีลเพื่อลดปริมาณขยะในระยะยาว
คุณอนัฆ นวราช ทายาทรุ่นที่ 3 และผู้อำนวยการ ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง เผยว่า “การที่เราได้เซ็นทรัลพัฒนามาเป็นพาร์ตเนอร์ในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ ”สินค้าออร์แกนิก” เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างและหลากหลายขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยส่งเสริมภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำได้ในภาพใหญ่อีกด้วย โดยเราได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากมะนาวซึ่งมีกรดซิตริกตามธรรมชาติ ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกได้ และยังมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยทำให้ระบบหายใจทำงานได้ดีขึ้น ด้านตะไคร้ ก็มีสรรพคุณในการทำความสะอาดผิว รักษาผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงปริมาณสารออกฤทธิ์จากตะไคร้ (Citral) และสารออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย (Limonene) ในน้ำมันตะไคร้ สามารถฆ่าและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ โดยในอนาคตเรายังเตรียมแผนต่อยอดโมเดลเพื่อสร้างคอมมูนิตี้แห่งความยั่งยืนร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนาต่อไป”
คุณเลิศวิทย์ กล่าวเสริมว่า “ตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกในไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจมีมูลค่าสูงระดับ 5,400 ล้านบาทในปี 2564 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาตระหนักและใส่ใจปัญหาสุขภาพการกินดีอยู่มากขึ้น โดยเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจในชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Millennials และ Gen Z) และกลุ่มผู้สูงอายุ (Aging-Society) ที่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงหันมาเอาใส่ใจสุขภาพตนเองและครอบครัว
การร่วมมือนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs Goal ที่เซ็นทรัลพัฒนานำมาปรับใช้ในธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายที่ 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities & Communities) และ เป้าหมายที่ 12: แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption & Production)”
เพราะเศรษฐกิจและความยั่งยืนเป็นเรื่องเดียวกัน เราจึงใส่ใจในทุกสิ่งที่เราเลือก … เพื่อดูแลลูกค้า ชุมชน คนไทย และสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจเกื้อกูลสังคมอย่างยั่งยืน #CentralPattanaxPatomOrganicLiving #BetterCommunity