ซัสโก้จับตาโอมิครอนพ่นพิษ จ่อทบทวนเป้าขายน้ำมันใหม่

ซัสโก้หวั่นโอมิครอนฉุดการใช้น้ำมันวูบ เล็งทบทวนเป้าหมายยอดขายน้ำมันปี 65 ใหม่จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดขายน้ำมันโต 40% หลังรัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 ยืนยันปี 65 บริษัทคงงบลงทุน 500 กว่าล้านบาทเพื่อขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่ม 15 แห่ง และใช้ปรับโฉมภาพลักษณ์ปั๊มอีก 40-50 แห่ง

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันโตขึ้น 40% จากปี 2564 เนื่องจากรัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นมา ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันฟื้นตัวดีขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติโดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน (JET) ที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทต้องเฝ้าจับตาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และรัฐบาลมีมาตรการออกมาอย่างไรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยบริษัทจะทบทวนเป้าหมายยอดขายน้ำมันใหม่หลังไตรมาส 1/2565

นายชัยฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 500 กว่าล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มเติมและการปรับโฉมภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันใหม่ให้ทันสมัยเพิ่มอีก 40-50 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะปรับโฉมปั๊มสถานีบริการน้ำมันใหม่ได้ทั้งหมด

ส่วนแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันในปี 2565 ตั้งเป้าเพิ่มอีก 15 แห่ง เป็นเป้าการขยายสถานีบริการที่มีจำนวนลดลงจากเดิมเคยขยายเพิ่มปีละ 20 แห่ง เนื่องจากปี 2565 บริษัทมีแนวคิดจะเพิ่มพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารภายในสถานีบริการน้ำมันมากขึ้นเหมือนเป็นแหล่งคอมมูนิตีที่มีร้านค้าหลากหลายในพื้นที่เดียวกัน เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการ

ส่วนธุรกิจ Non-oil พบว่ามีร้านค้าร้านอาหารแบรนด์ดังเข้ามาเปิดสาขาในสถานีบริการซัสโก้เพิ่มขึ้น เป็นผลจากสถานการณ์โควิดทำให้มีการปิดห้างสรรพสินค้าทำร้านค้า-ร้านอาหารได้รับผลกระทบจึงมีนโยบายเปิดสาขานอกห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น โดยปี 2565 จะเห็นการเข้ามาเปิดสาขาของร้านอาหารดังเช่น KFC, สตาร์บัค เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะมีร้านแมคโดนัลมาเปิดสาขาในปั๊มซัสโก้ด้วยเช่นกัน ทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการเช่ามากขึ้น ส่วนร้านสะดวกซื้อ Lawson 108 ยังมีการเปิดสาขาเพิ่มตามจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เปิดใหม่

นายชัยฤทธิ์กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดขายน้ำมันไม่ได้โตตามเป้าหมายที่วางไว้ 20% และยังต่ำกว่าปี 2563 เล็กน้อย เนื่องจากมีมาตรการล็อกดาวน์ปิดประเทศทำให้ยอดขายน้ำมัน JET หายไปและยอดขายน้ำมันสำเร็จรูปก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ขณะที่การเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันใหม่ก็ไม่เป็นไปตามแผนจากเดิมตั้งไว้ 20 แห่ง พบว่าเสร็จล่าช้าออกไปเป็นปี 2565 ประมาณ 6 แห่ง ทำให้สิ้นปี 2564 บริษัทจะมีสถานีบริการน้ำมันรวม 250 แห่ง

สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีปริมาณการขายน้ำมันรวม 691.570 ล้านลิตร ลดลง 13.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 มีรายได้รวม 14,123.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9.95% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เนื่องจากรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น และรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 274.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.65% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 214.58 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 118.53 ล้านบาท