xs
xsm
sm
md
lg

RBI จับมือแอนท์กรุ๊ป เร่งทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Restaurant Brands International Inc. ("RBI") หนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์ เช่น TIM HORTONS®, BURGER KING® และ POPEYES® ประกาศความร่วมมือระดับภูมิภาคกับแอนท์กรุ๊ป (Ant Group) โดยจะใช้ประโยชน์จากโซลูชันดิจิทัลของแอนท์กรุ๊ปเพื่อเร่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของ RBI เพื่อสนับสนุนการทำงานของร้านอาหารแฟรนไชส์และการขยายธุรกิจในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว แอนท์กรุ๊ปจะทำงานร่วมกับร้านอาหารแฟรนไชส์ของ RBI ในแต่ละประเทศ เพื่อติดตั้งการใช้งานโซลูชันดิจิทัล รวมถึงโซลูชันมินิโปรแกรมในรูปแบบของ Software-as-a-Service (SaaS) และ Alipay+ ซึ่งเป็นโซลูชันด้านการตลาดและการชำระเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทั่วโลก ความร่วมมือในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบประสบการณ์หลากหลายช่องทาง (omni-channel) ที่ราบรื่นและสะดวกมากขึ้นสำหรับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของร้านอาหาร

ด้วยโซลูชันมินิโปรแกรม SaaS แอนท์กรุ๊ปจะพัฒนามินิโปรแกรมสำหรับแต่ละแบรนด์ของ RBI ซึ่งได้แก่ Tim Hortons, Burger King และ Popeyes โดยมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพตลาดของแต่ละประเทศ ภายใต้มินิโปรแกรมนี้ ร้านอาหารแฟรนไชส์ของ RBI ในแต่ละประเทศจะสามารถผนวกรวมการดำเนินงานทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานได้อย่างละเอียดและเจาะลึกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ลูกค้าของร้านอาหารจะสามารถเข้าถึงบริการเพิ่มเติมได้ เช่น เมนูและการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) การสั่งอาหารทางออนไลน์แล้วไปรับที่ร้าน หรือการส่งถึงบ้าน ฟังก์ชันการสแกนและสั่งอาหารภายในร้าน เป็นต้น นอกจากนั้น มินิโปรแกรมยังผนวกรวมกับ Loyalty Program ที่มีอยู่ในแต่ละแบรนด์ของ RBI และนำเสนอฟีเจอร์ด้านการตลาดดิจิทัลเพิ่มเติม เช่น การแจกคูปองส่วนลดแบบดิจิทัล ฯลฯ

เพื่อช่วยให้ร้านอาหารของ RBI เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น มินิโปรแกรมดังกล่าวจะถูกบูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงแพลตฟอร์มของ Chope ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพชั้นนำด้านเทคโนโลยี F&B ระดับภูมิภาค และบริการอีวอลเล็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น


ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว RBI จะใช้ประโยชน์จากโซลูชัน Alipay+ ของแอนท์กรุ๊ป เพื่อขยายทางเลือกในการชำระเงินสำหรับร้านอาหาร เว็บไซต์ แอปฯ และมินิโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง ด้วยการผนวกรวมโซลูชันต่างๆ ของ Alipay+ การดำเนินงานของ RBI จะรองรับการชำระเงินต่างๆ เช่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท (True Money Wallet) ในไทย, Touch ‘n Go eWallet ในมาเลเซีย, GCash ในฟิลิปปินส์, Kakao Pay ในเกาหลีใต้ และอื่นๆ อีกมากมาย

เอเครม โอเซอร์ ประธานประจำภูมิภาค APAC ของ Restaurant Brands International กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศการเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญกับแอนท์กรุ๊ป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภารกิจของเราเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าในการสั่งและรับประทานอาหารที่ง่ายขึ้น รวมถึงการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ที่สะดวก และตรงความต้องการของลูกค้า ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ในเอเชียจะได้รับประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่ดิจิทัล และการรวมมินิโปรแกรมเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ เช่นกัน”

แองเจล เจา ประธานกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศของแอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า “การนำระบบการชำระเงินดิจิทัลและนวัตกรรมทางการตลาดมาใช้เป็นเรื่องสำคัญต่ออุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้บริการแบบไร้การสัมผัส (Contactless) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพื่อให้แบรนด์สามารถปรับตัวได้เท่าทันต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ แอนท์กรุ๊ปมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ RBI ต่อการมุ่งสู่เส้นทางดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อนำเสนอประสบการณ์แก่ลูกค้าในรูปแบบใหม่ เชื่อมต่อลูกค้ากับแบรนด์ในเครือ RBI ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า”

การปรับใช้โซลูชันดังกล่าวจะครอบคลุม 8 ตลาดในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประกอบด้วยร้านอาหาร 1,500 สาขาภายใต้ 3 แบรนด์หลักของ RBI

Restaurant Brands International Inc. เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายราว 34,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และมีร้านอาหารสาขากว่า 27,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก RBI เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนชื่อดังระดับโลก 3 แบรนด์ ได้แก่ TIM HORTONS®, BURGER KING® และ POPEYES® แบรนด์เหล่านี้ดำเนินงานแยกเป็นอิสระจากกันโดยให้บริการแก่ลูกค้า ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ และชุมชนที่เกี่ยวข้องมานานกว่า 45 ปี

แอนท์กรุ๊ปมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของธุรกิจบริการ และช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินและบริการอื่นๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน

แอนท์กรุ๊ปเป็นเจ้าของและผู้ให้บริการอาลีเพย์ (Alipay) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลชั้นนำของจีน มีผู้ใช้หลายร้อยล้านคน โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อผู้ใช้เข้ากับผู้ประกอบการและสถาบันการเงินที่เป็นพาร์ตเนอร์ ซึ่งนำเสนอบริการด้านการเงินและบริการดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เช่น บริการส่งอาหาร บริการขนส่ง ความบันเทิง และบริการด้านสุขภาพ

ล่าสุดแอนท์กรุ๊ปได้เปิดตัว Alipay+ ซึ่งนำเสนอโซลูชันด้านการตลาดและการชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศทั่วโลก เพื่อเสริมศักยภาพแก่ผู้ให้บริการอีวอลเล็ทและผู้ประกอบการที่เป็นพาร์ตเนอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถปรับปรุงการให้บริการแก่ผู้ใช้และลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น