ผู้จัดการรายวัน360 – เดอะพิซซ่าคอมปะนี้รับปีนี้รายได้ตกลง 10% พร้อมระวังโอมิครอนเต็มตัว ยันพร้อมรับมือด้วยแผนสำรอง เดินเครื่องปรับครั้งใหญ่รอบ 21 ปี เปิดซับแบรนด์ซิกเนเจอร์ ประเดิมสาขาซีคอนสแควร์ ชูความพรีเมี่ยม พร้อมปั้นซับแบรนด์ใหม่ “ ชิค อะ บูม” รุกตลาดไก่ทอด 4 หมื่นล้านบาท เต็มตัว
นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ที่เริ่มมีการพบผู้ติดเชื้อในไทยบ้างแล้ว ยังมองไม่ออกว่าจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร แต่หากไม่รุนแรงคาดว่าไตรมาส1ปีหน้า(2565)รายได้จะกลับมาปกติ แต่หากรุนแรงคาดว่าไตรมาส3 จึงจะปีหน้าฟื้นตัวได้ จากปีนี้ที่ยอดขายรวมของเดอะพิซซ่าตกเช่นเดียวกับภาพรวมทั่วไปหรือมีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาทตกลงประมาณ 10% จากปกติที่มี 8,000 กว่าล้านบาท เป็นผู้นำตลาด
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนการสำรองเตรียมไว้แล้วว่าจะต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง หากมีมาตรการล็อกดาวน์ออกมาอีกเช่น ปิดสาขาแล้วต้องทำอย่างไร ส่วนบริการดีลิเวอรี่เราก็พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันลูกค้ากลับมาใช้บริการประมาณ 60% เริ่มดีขึ้นแล้วแต่ก็มาเจอเรื่องโอมิครอนอีก โดยสัดส่วนรายได้ขณะน้ีอยู่ที่ นั่งทานในร้าน เหลือ 20% ดีลิเวอรี่เพิ่มเป็น 50% เติบโตมากกว่า 25% และเทคอะเวย์ 30% จากสถานการณ์ปกติจะเฉลี่ยเท่ากันๆ3ช่องทาง
ล่าสุดได้เปิดตัวโฉมใหม่ชื่อว่า ร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี ซิกเนเจอร์ สาขาแรกที่ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ ด้วยงบลงทุนกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีซับแบรนด์ของเดอะพิซซ่าคอมปะนี และแตกต่างจากร้านเดิม ทั้งการบริการเช่นการปรุงพาสต้าสด ปรุงสลัดสดที่โต๊ะลูกค้า โชว์คลุกพาสต้าในชีสก้อนโต เมื่อสั่งเมนูสปาเกตตี้ครีมเห็ดทรัฟเฟิล ราคา 259 บาท หรือ คาโบนาร่า เบคอนยักษ์รมควัน ราคา 269 บาท หรือการคลุกสลัดสดๆโชว์พร้อมเสิร์ฟกันถึงโต๊ะ เมื่อสั่งเมนู ซีซาร์สลัด เบคอนยักษ์รมควัน ในราคา 259 บาท รวมมีเมนูเฉพาะที่โมเดลใหม่นี้กว่า 70 เมนู มีพิซซ่า 17 หน้าใช้แป้งนโปเลียน หรือมีเมสนใหม่เช่นสเต๊กปลา และบรรยากาศการตกแต่งร้าน เป็นต้น ซึ่งสาขานี้บริการเฉพาะนั่งทานในร้านกับเทคอะเวย์ เท่านั้น ไม่มีบริการดีลิเวอรี่
บริษัทวางเป้าหมายหากโมเดลนี้สำเร็จในปีหน้าจะปรับปรุงสาขาเดิมให้เป็่นโมเดลใหม่อย่างน้อย 10 สาขา เน้นทำเลกลางเมืองและมีกลุ่มเฟิร์สทจ๊อบเบอร์มาก ส่วนแผนการเปิดสาขาใหม่จะมีประมาณ 10 สาขา ลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 12 ล้านบาท และจะลดขนาดพื้นที่ลงเหลือ ประมาณ 180 – 200 ตารางเมตร จากเดิมใหญ่ 250 ตารางเมตรขึ้นไป ขณะที่ปีนี้ไม่ได้เปิดสาขาใหม่มีแต่รีโนเวทสาขาเดิมเช่น พระรามสอง ท่าพระ เป็นต้น ปัจจุบันมีรวม 420 สาขา
นอกจากนั้นยังเปิดตัวแบรนด์ใหม่คือ ชิค อะ บูม ไก่ทอด เริ่มจำหน่ายที่สาขานี้ที่เดียวก่อน เพื่อผลักดันเมนูไก่ทอดให้เป็นแบรนด์รายได้หลักเพิ่มอีก ส่วนเดือนมกราคมปีหน้าคาดว่าจะเริ่มขยายชิกเก้น อะ บูม ไปสาขาอื่นๆได้ และอนาคตอาจจะมีการขยายสาขาแยกเป็นร้านเฉพาะของตนเอง
ไก่ทอด “ชิค-อะ-บูม” มีเมนูไฮไลท์อย่าง เดอะ คิลเลอร์ (The Killer) ถึง 4 ไม้ เสิร์ฟพร้อมคอร์นด็อกราคา 499 บาท อีกทั้งยังมีเมนูที่ให้ลูกค้าได้เลือกได้ ตั้งแต่การเลือกเซ็ตไก่ ซอส และเครื่องเคียง โดยเซ็ตไก่จะแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ Chicka มีไก่ 6 ชิ้น ราคา 169 บาท Chicka Chicka มีไก่ 12 ชิ้น ราคา 289 บาท และ Chicka Chicka Chickaมีไก่ 18 ชิ้น ราคา 389 บาท และมีซอส 7รสชาติ อาทิ 1.) วิมปี้ (Wimpy) รสชาติกระเทียมหอมๆ 2.) ฮันนี่บูม (Honey Boom) รสชาติหวานกลมกล่อมของน้ำผึ้ง 3.) สโมคกี้ บอมบ์ (Smoky Bomb) กลิ่นรมควันหอมอบอวล 4.) ทรัฟเฟิล (Truffle) ซอสเห็ดทรัฟเฟิล 5.) บัฟฟาโล (Buffalo) รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อมสไตล์อเมริกัน 6.) อะตอมมิค (Atomic) รสเผ็ดเข้มข้นผสมความหวานนิดๆ 7.) เซเว่น มิสซายล์ (7 Missiles) รสเผ็ดเข้มข้น
"ต้องยอมรับว่า เดอะพิซซ่าคอมปะนีเป็นแบรนด์เก่าอายุมากกว่า 21 ปีแล้ว ต้องมีการปรับตัวทำอะไรใหม่ๆเพื่อดึงลูกค้าบ้าง การจะโตแบบเดิมคงยากแล้ว ซึ่งการปรับโฉมใหญ่โมเดลนี้จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงาน วัยรุ่นได้มากขึ้น ส่วนชิค อะ บูม ก็ทำให้เรามีโอกาสเจาะตลาดไก่ทอดที่มีมูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปีที่เป็นตลาดใหญ่มากได้ด้วย จากเดิมที่เราเป็นผู้นำตลาดปีกไก่ทอดในส่วนของปีกไก่มาแล้ว โดยมีรายได้ไก่ทอดสัดส่วน 10% ของเดอะพิซซ่าคอมปะนี” นายภาณุศักดิ์ กล่าว
