xs
xsm
sm
md
lg

กรอ.-จิสด้า-วช.จับมือใช้เทคโนโลยีดาวเทียมสแกน “โควิด-ภัยพิบัติ” นำร่องโรงงานใหญ่ 9 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรอ.จับมือ GISTDA โดยการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พัฒนาต้นแบบ (Model) เพื่อการเฝ้าระวังลดผลกระทบการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 และการเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติในโรงงานขนาดใหญ่ด้วยระบบเฝ้าระวังจากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ เล็งนำร่องพื้นที่ 9 จังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่จำนวนมาก คาดสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มและส่งมอบแก่ กรอ.ภายในมิถุนายน 2565

นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)
เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ที่มีการแพร่กระจายรวดเร็วมากขึ้น กรอ.จึงร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ. หรือ GISTDA) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พัฒนาแพลตฟอร์ม (Platform) 3 โมเดลต้นแบบ เพื่อเฝ้าระวังลดผลกระทบการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติในโรงงานขนาดใหญ่ ด้วยระบบเฝ้าระวังจากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ คาดว่าจะสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นระบบเฝ้าระวังที่สมบูรณ์แบบได้ภายในมิถุนายน 2565

ทั้งนี้ กรอ.และ สทอภ.ได้ร่วมกันถอดบทเรียนโครงสร้างข้อมูล มาตรการ และแนวทางการดำเนินงานในการแก้ปัญหาการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 จากจังหวัดสมุทรสาคร แล้วนำมาทำกรอบโครงการกำหนดเป็นโมเดลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อวางแนวทางให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้มีการพัฒนาประมวลผลข้อมูล และวางระบบการวิเคราะห์การจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงงาน และนอกจากปัญหาการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 แล้ว ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยังมีโอกาสเผชิญปัญหาภัยพิบัติในรูปแบบอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชน สังคม เศรษฐกิจ ในวงกว้าง กรอ.จึงได้วางแนวทางเชิงรุกควบคู่ โดยการทำโมเดลเฝ้าระวังและบริหารจัดการภัยพิบัติที่เกิดจากสารเคมี อุทกภัย และโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันไปด้วย

โดยจะนำมาเป็นโมเดลการเฝ้าระวังและลดผลกระทบการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ โมเดลภัยพิบัติด้านสารเคมีในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา และโมเดลด้านอุทกภัยในจังหวัดนครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี รวมทั้งสิ้น 9 จังหวัดนำร่อง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงเคยได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติมาแล้ว

“เบื้องต้นได้มีการพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูล และวางระบบการวิเคราะห์การจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเลือกใช้โมเดลที่มีความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่จังหวัด เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลเดิม โดย กรอ.จะเป็นหน่วยงานบริหารหลัก ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการฐานข้อมูลร่วมกันในการจัดการสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติของโรงงานในพื้นที่ โดยใช้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการทำฐานข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีอวกาศ (ดาวเทียม) และภูมิสารสนเทศของ สทอภ.มากำหนดพื้นที่” นายวันชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น