ผู้จัดการรายวัน 360 - เอส แอนด์ พี ซินดิเคทเปิดแผนบุกปี 65 ทุ่มงบรวมกว่า 100 ล้านบาทผุดทุกโมเดลรวมกว่า 40 จุด พร้อมลุ้นกลับมาเทิร์นอะราวนด์รายได้เท่ากับปีก่อนโควิดที่ 6,000 ล้านบาท เตรียมพร้อมแผนรับมือโควิด-19 สายพันธ์ุใหม่ที่จะระบาดอีก
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนธุรกิจปีหน้า (2565) วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 85-100 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาและจุดขายใหม่ทุกโมเดลรวมกันไม่ต่ำกว่า 40 จุด เช่น โมเดลเดลตาเปิดอีก 25 จุด ชอปใหญ่เปิดอีก 20 แห่ง โมเดลเบเกอรีมาร์ทเปิดอีก 10-15 จุด โมเดลมาร์เกตเพลซเปิดอีก 12 จุดที่ปรับจากชอปเดิม โมเดลโปรดักชันฮับเปิดอีก 10 จุด ซึ่งบางโมเดลก็จะอยู่ในสาขาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนสำรองเตรียมไว้แล้ว รองรับกับการที่ขณะนี้โควิด-19 ที่เริ่มมีการกลายสายพันธ์ูใหม่อีกแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ระบาดเข้ามาในไทยก็ตาม ซึ่งเป็นการเตรียมไว้ก่อน หากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดจริงและเกิดการล็อกดาวน์อีกครั้ืง
ทั้งนี้ หากปีหน้าไม่มีเหตุการณ์หรือสถานการณ์อะไรที่รุนแรง บริษัทคาดหวังว่ารายได้รวมจะกลับไปเท่าเดิมในช่วงปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ปกติยังไม่เกิดสถานการณ์โควิด-19 หรือมีรายได้ในขณะนั้นประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% ได้แน่นอนต่อเนื่อง
ส่วนปีนี้ (2564) ผลประกอบการโดยรวมเริ่มดีขึ้นจากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ทั้งปี แต่รายได้รวมยังต่ำกว่างบปกติอยู่ คาดว่ายังต่ำกว่า 5% ซึ่งยังดีกว่าปีที่แล้วที่ติดลบมากกว่า 20% แต่ที่สำคัญแม้ว่ารายได้รวมยังต่ำกว่าเดิม แต่ว่าบริษัทฯ กลับสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างดีในสถานการณ์เช่นนี้ เนื่องจากยอดขายทุกกลุ่มสินค้าและทุกช่องทางเติบโตทั้งหมด โดยงบช่วงไตรมาสที่ 2/64 มีกำไรประมาณ 95 ล้านบาท ส่วนกำไรรวมช่วง 3 ไตรมาสแรกอยู่ที่ 218 ล้านบาท แยกสัดส่วนรายได้จะพบว่า เป็นช่องทางเทกอะเวย์ 73% ช่องทางนั่งรับประทานในร้าน 15% และช่องทางดีลิเวอรี 11% แต่คาดว่าในปีหน้าสัดส่วนจะเปลี่ยนไป คือ เทกอะเวย์จะลดลงเหลือประมาณ 63% แต่ฐานรายได้เติบโตขึ้น ช่องทางนั่งรับประทานในร้านเป็น 20% และช่องทางดีลิเวอรีเพิ่มเป็น 17% ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญทุกช่องทาง
“ตั้งแต่ต้นปี 2564 ธุรกิจหลายภาคส่วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เราจึงให้ความสำคัญต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และปรับตัวด้วยกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยภาพรวมปี 2564 เอส แอนด์ พีดำเนินการแล้ว ได้แก่
S&P Bakerymart ด้วยแนวคิด ‘Life Style and Convenient Bakery Shop’ บนพื้นที่ขนาด 60 ตารางเมตรขึ้นไป มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกกว่า 400 รายการ ปี 2564 มีเป้าหมายดำเนินการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 จุด
S&P HUBs Project จุดผลิตเบเกอรีสำหรับกระจายไปยังสาขาและชอปในพื้นที่ใกล้เคียง ปี 2564 มีเป้าหมายดำเนินการ 9 จุด สามารถกระจายสินค้าไปยังสาขาและชอปได้ถึง 96 จุดขาย และมีแผนขยายอย่างต่อเนื่องในปี 2565
S&P Delivery1344 ในปีนี้ เอส แอนด์ พี เน้นยอดขายผ่านช่องทางดีลิเวอรีมากขึ้น โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Food Aggregator) เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างสรรค์โปรโมชันพิเศษให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น GrabFood LineMan FoodPanda
DelTA (Delivery & Take Away) โมเดลร้าน เอส แอนด์ พี รูปแบบ Convenient Bakery Shop ที่มีครัวสำหรับทำอาหารอยู่ในตัว เพื่อให้บริการรูปแบบซื้อกลับบ้านและดีลิเวอรี ปี 2564 สามารถดำเนินการตามแผนครบ 31 จุด และปี 2565 ยังมีแผนขยายจุดขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกกว่า 30 จุด
S&P Marketplace จากแคมเปญ ‘เอส แอนด์ พี มาร์เก็ตเพลส หรือ ‘ตลาดนัด เอส แอนด์ พี แบบเต็มรูปแบบ’ จำนวน 130 สาขาทั่วประเทศ ในช่วงปิดร้านอาหารเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เอส แอนด์ พี ได้ต่อยอดความสำเร็จโดยทำเป็นโมเดลสาขานำร่อง 3 จุดขาย ที่มีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร ด้วยการปรับรูปแบบร้านให้มีทั้งโซนนั่งรับประทานอาหารในร้าน และตลาดนัดเอส แอนด์ พี ในรูปแบบซื้อกลับบ้าน (Take Away) พร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษอย่างต่อเนื่อง