xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอ็นผนึกพันธมิตร-สตาร์ทอัพ เร่งลดขยะฝังกลบ 50% ภายใน 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360 - เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดแผนงาน Central Pattana Journey to Zero ใน 5 ปี จับมือพันธมิตร และสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ด้าน Waste Management เปิดตัว Central Pattana x Recycle Day : Drive & Drop Recycle Station ที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ จุดรับขยะแยกประเภทแบบไดรฟ์ทรูที่ผสานเทคโนโลยีครั้งแรกในวงการศูนย์การค้า เตรียมปักหมุดสาขาเปิดใหม่ เซ็นทรัล ศรีราชา ร่วมมือกับ Recycle Day และ SCG ผสานนวัตกรรม Smart Wall ออกแบบด้วยวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดเศษวัสดุจากการก่อสร้าง ด้านเซ็นทรัล เวสต์เกต ร่วมลดปริมาณขยะจากร้านอาหารด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำจากเครื่อง NOW Digester จากนาว เอนด์ออฟเวสท์

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “สำหรับเมกะเทรนด์ From Waste to Worth เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก เปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะ ให้ขยะมูลฝอยกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่า ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เซ็นทรัลพัฒนาเราได้มีการจัดลำดับความสำคัญให้เรื่องการจัดการขยะมาเป็นอันดับหนึ่งในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสังคม Sustainable Community ในประเทศไทย


จากการคำนวณและประมาณการธุรกิจศูนย์การค้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันผลิตปริมาณขยะออกมามากกว่า 500,000 ตันต่อปี ซึ่งหากขยะเหล่านั้นไม่ได้รับการแปรรูปหรือจัดการอย่างเหมาะสมก็จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อม เราจึงตั้งเป้าที่จะจัดการลดขยะฝังกลบให้ได้ 50% ภายใน 5 ปี ผ่านการคัดแยกและแปรรูปอย่างถูกวิธีในศูนย์การค้าของเรา รวมถึงขอความร่วมมือร้านค้าต่างๆ แปรรูปขยะเหลือทิ้ง และรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ลูกค้ารับประทานอาหารให้หมดจานเพื่อลดปริมาณขยะ Food Waste ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำอสังหาฯ ด้านความยั่งยืนของไทยและระดับโลก และเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดชุมชน และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างโลกที่น่าอยู่ หรือ Better Planet สำหรับทุกคน

ล่าสุด ด้วยหลักการ Co-creation for Better Planet เราจึงจับมือพันธมิตรและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่อย่าง Recycle Day เปิดตัว Drive & Drop Recycle Station จุดรับขยะแยกประเภทแบบไดรฟ์ทรูที่ผสานเทคโนโลยีครั้งแรกในวงการศูนย์การค้า เริ่มที่แรก เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัล ศรีราชา พร้อมเดินขยายแผนทั่วประเทศ

จุดเด่นและข้อแตกต่างของ Recycle Station ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลนั้น คือการผสานเทคโนโลยี และสร้างแรงจูงใจให้เกิดการทิ้งดี แยกขยะถูกประเภท และสามารถแลกพอยต์ The 1 เพื่อรับส่วนลด หรือ รับสิทธิประโยชน์มากมายจากร้านค้าในศูนย์การค้าและพาร์ตเนอร์มากมาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในระดับ Consumers ที่ช่วยส่งเสริมค่านิยมให้แก่คนไทยในการสร้างสังคมแห่งการทิ้งดีต่อไปในอนาคต


ขณะเดียวกัน เราก็ได้ร่วมกับ บริษัท นาว เอนด์ออฟเวสท์ จำกัด นำร่องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการกำจัดขยะอาหารระดับโลกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต เพื่อลด Food Waste อีกด้วย

นายชนัมภ์ ชวนิชย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด เผยว่า “Recycle Day เราเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มี Business Model โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งที่มีมูลค่า การได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งมีแนวความเชื่อที่สอดคล้องกัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัล ศรีราชา มีทราฟฟิกที่เป็นลูกค้ากลุ่มคุณภาพ มีทราฟฟิก เฉลี่ยวันละประมาณ 30,000-50,000 คน ที่นิยมใช้พาหนะส่วนตัว และมีพฤติกรรมในการแยกขยะมาจากบ้าน แล้วมองหาจุดบริการรับขยะแยกประเภทในศูนย์การค้า ทางเราเองก็มีกลุ่มฐานลูกค้าเดิมที่ร่วมแยกขยะในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเตรียมต่อยอดไปในจังหวัดชลบุรี คาดว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมโปรแกรมแยกขยะให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ 20,000 คนใน 3 ปี และสร้างสังคมแห่งการทิ้งดีไปด้วยกัน


นายพอพงษ์ ชินวัตร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท นาว เอนด์ออฟเวสท์ จำกัด อีกหนึ่งพันธมิตรทีร่วมงานกับเซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า “เซ็นทรัล เวสต์เกต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แบบซูเปอร์รีจินัลมอลล์ที่มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ และมีร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งจาก Tops และ Food Park ซึ่งส่งผลต่อปริมาณขยะอินทรีย์ที่เกิดจากร้านอาหารเป็นจำนวนมาก

“เราจึงได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนา นำนวัตกรรมเครื่องนาวไดเจสเตอร์ (NOW Digester) มาทดลองริเริ่มใช้ในศูนย์การค้าของไทยที่นี่เป็นแห่งแรก ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้จัดการขยะในสนามบิน โรงแรมชั้นนำ และศูนย์การค้าระดับโลก ในประเทศสิงคโปร์ รวมถึงในประเทศนอร์เวย์ ที่ถือเป็นประเทศต้นแบบการจัดการขยะของโลก โดยสามารถย่อยสลายเศษอาหารด้วยจุลินทรีย์ได้ภายใน 24 ชั่วโมงในรูปแบบน้ำ”

เป้าหมายในระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าจะลดปริมาณขยะฝังกลบได้มากถึง 180,000 กิโลกรัม และเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ทางเราพร้อมเปิดให้บริษัท ห้างร้านและหน่วยงานที่สนใจสามารถติดต่อเข้าชมการทำงานของนวัตกรรมดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อร่วมกันผลักดันการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ เซ็นทรัลพัฒนาได้ริเริ่มโครงการด้านการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องไปกับแนวทางการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนระดับนานาชาติ หรือ UNSGD ต่างๆ อาทิ แคมเปญทิ้งดี รวมถึงร่วมกับพันธมิตรอีกหลายภาคส่วน ผลักดันเรื่องการแยกขยะให้ภาคประชาชนสร้าง Sustainable Community สังคมแห่งการทิ้งดีร่วมกัน เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ และเป็น Better Planet สำหรับทุกคน














กำลังโหลดความคิดเห็น