ทช.เร่งถนนเลียบทะเล (ไทยแลนด์ริเวียร่า) แนวริมทะเลสาบสงขลาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ระยะทาง 80 กม. เผยสาย พท.4003 กว่า 13 กม. งบกว่า 164 ล้านเสร็จในปี 66 วางแผนอีก 3 โครงการสร้างปี 65-67
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ ทช.จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลเชื่อมระหว่างภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบนตั้งแต่จังหวัดสมุทรสงคราม-จังหวัดชุมพร (Thailand Rivera) เพื่อพัฒนาโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้โครงข่ายดังกล่าวเกิดความต่อเนื่อง ทช.จึงได้ดำเนินการปรับปรุงถนนโครงการพัฒนาถนนริมทะเลสาบสงขลาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นโครงข่ายสายรองเลียบทะเลสาบสงขลา ระยะทางรวมประมาณ 80 กิโลเมตร
ปัจจุบัน ทช.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พท.4003 แยก ทล.4050-บ้านจงเก อำเภอเมือง และเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ระยะทาง 13.800 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+000 บริเวณ บ้านปากหวะ อำเภอเมือง ถึงจุดสิ้นสุดโครงการ กม.ที่ 13+800 บริเวณบ้านจงเก อำเภอเขาชัยสน
ก่อสร้างเป็นผิวจราจรแบบแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร กว้าง 7 เมตร มีไหล่ทางกว้างข้างละ 2.5 เมตร พร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายจราจรเพื่อความปลอดภัย คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 164.750 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 2565-2567 ทช.มีแผนที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างถนนริมทะเลสาบสงขลาอีกจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พท.4007 แยก ทล.4047-บ้านทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง 2. โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พท.4004 แยก ทล.4081-บ้านฝาละมี อำเภอเขาชัยสน บางแก้ว และปากพะยูน จังหวัดพัทลุง และ 3. โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พท.4026 แยก ทล.4081-บ้านชะแล้ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
เมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นการยกระดับมาตรฐานทาง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมสู่แหล่งท่องเที่ยวให้มีศักยภาพระดับภาคแล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างชุมชนท้องถิ่นริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแถบลุ่มแม่น้ำโดยเฉพาะทะเลน้อย ตลอดจนเป็นการผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดในด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับโครงข่ายการขนส่งสู่ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูลได้ในอนาคตอีกด้วย