xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.คาดเปิดประเทศเที่ยวบินยังไม่ฟื้นลุ้น ก.ย. 65 จีนเริ่มเดินทางมหกรรม”เอเชี่ยนเกมส์”ตั้งเป้าผู้โดยสาร 62 ล้านคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทอท.คาดเปิดประเทศ 1 พ.ย.64 การบินยังไม่ฟื้นหลายปัจจัยไม่กระตุ้นเดินทาง รอลุ้นก.ย. 65 จีนจัดเอเชี่ยนเกมส์ ดันปี 65 ผู้โดยสาร 6 สนามบินแตะ 62 ล้านคน เซทบริการ New Normal เช็กอิน /รับกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเอง ลดสัมผัส รับเดินทาง 1 พ.ย.รับไฟลท์อินเตอร์ 110 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 7,000 คน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 สนามบินทั้ง 6 แห่งของทอท. รองรับผู้โดยสารที่ 142 ล้านคน /ปี ขณะที่ประเมินปีงบประมาณ 2565 ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ประมาณ 62 ล้านคน โดยปี 2565 ถือว่าเป็นปีที่สำคัญอุตสาหกรรมการบิน โดยมี 3 จุดใหญ่ที่ต้องจับตา คือ จุดที่ 1. การเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 จะเป็นการเช็กสถานะของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการบิน ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีมาตรการลดหย่อนต่างๆ หรือพักชำระหนี้ ว่าผู้ประกอบการเหล่านั้น จะมีความพร้อมกลับมาให้บริการอีกครั้งจำนวนแค่ไหน หรือมีเลิกกิจการไปถาวรแล้วเท่าไร

ส่วนการเปิดบินเส้นทางต่างๆ หรือจำนวนผู้โดยสารนั้น ในช่วงเดือนพ.ย.จะยังเพิ่มไม่มากนัก เนื่องจากในการบิน สายการบินจะต้องมีแผนล่วงหน้า ทั้งการขายตั๋ว การจัดการเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาร 1 เดือนเศษ แต่การประกาสเปิดประเทศใน พ.ย. นี้ เป็นการส่งสัญญาณไปถึงช่วงปีใหม่ 2565 ที่เป็นฤดูท่องเที่ยว คาดว่าสายการบินจะทำการบินมากขึ้น และทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นไปด้วย

จุดที่ 2 ในเดือน ธ.ค. 2564 หลังจากเปิดประเทศ 1 เดือน คาดว่าสายการบินจะเซทการขายตั๋วล่วงหน้าได้แล้ว แต่ก็อาจจะต้องลุ้นกันอีก เพราะมีหลายปัจจัย เช่น ประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่มามากนักจนกระทั่งหลังตรุษจีน แต่จุดที่จะชี้วัดคือ เดือนก.ย.2565 ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ โดยคาดว่า จีนจะเริ่มมีการเดินทางช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.2565

จุดที่ 3 เมื่อจีนเปิดให้มีการเดินทาง จะต้องดูว่าแต่ละอุตสาหกรรมการบิน ถึงจุดคุ้มทุนหรือยัง เช่น ทอท.ในฐานะผู้บริหารสนามบิน จะต้องมีจำนวนผู้โดยสารกลัมมาที่ระดับ 50 % จึงจะคุ้มทุน สำหรับสายการบิน จุดคุ้มทุน ที่Load Factor ประมาณ 60-70%

นายนิตินัยกล่าวว่า ปัจจัยสำหรับปี 2565 ค่อนข้างมาก ที่ต้องรอดู แต่คาดว่า ในปี 2566 อุตสาหกรรมการบินจะเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยจับตาสถานการณ์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ คือช่วงเดือนต.ค. 2565-ม.ค. 2566 คาดว่าผลประกอบการน่าจะฟื้นกลับขึ้นมา

สำหรับทอท.นั้น สถานการณ์โควิดกระทบต่อการดำเนินงานตั้งแต่ งบประมาณปี 2563 โดย ช่วง 4 เดือนแรก (ต.ค. 62-ม.ค. 63) ยังเป็นช่วงที่ไม่ได้รับผลกระทบ ทำให้ทั้งปีงบประมาณ 2563 ทอท.มีกำไร ราว 5,000 ล้านบาท ส่วนงบประมาณปี 2564 มีผลกระทบจากโควิดทั้งปี ทำให้มีผลขาดทุนเป็นครั้งแรก ส่วนงบประมาณปี 2565 ช่วง 4 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว ยังเป็นช่วงที่การบินน้อย แม้จะเปิดประเทศในช่วง 8 เดือนหลังก็ตาม แต่เชื่อว่าไม่สามารถกอบกู้ผลดำเนินการงานขึ้นมาได้

ขณะที่การเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ทอท.มีความพร้อมในการดำเนินการทุก ๆ ด้าน โดยประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศ ของสุวรรณภูมิ ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 มีสายการบินแจ้งทำการบินเที่ยวบินพาณิชย์ ประมาณ 440 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 230 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 110 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขนส่งสินค้า ประมาณ 100 เที่ยวบิน โดยเมื่อประมาณการที่ 30% จากความจุของแบบอากาศยาน AOT จึงคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่าน สุวรรณภูมิจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 30,000 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 23,000 คน และผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 7,000 คน

ซึ่งจะต้องปฏิบัติการในรูปแบบ New Normal ที่เน้นการบริการผ่านระบบ IT คือ งลดคน ลดสัมผัส ซึ่งได้มีการนำเครื่อง KIOSK สำหรับเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service : CUSS) จำนวน 196 เครื่อง และเครื่อง KIOSK รับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop : CUBD) จำนวน 42 เครื่อง ที่มีมาตรฐานตามที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) กำหนด มาให้บริการผู้โดยสารในกระบวนการพิธีการผู้โดยสารขาออก ซึ่งได้ติดตั้งกระจายอยู่บริเวณแถวเช็กอินตั้งแต่ Row B ถึง Row U ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร รวมถึง แอปพลิเคชัน AOT โดยในเดือนพ.ย.จะรีแบรนด์เปลี่ยนเป็น โฉมใหม่ “SAWASDEE by AOT” เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารภายใต้แนวคิด สู่การเป็น “Digital Airports สนามบินมีชีวิต”สามารถเช็กสถานะของกระเป๋า ที่จอดรถ ข้อมูลข่าวสารเที่ยวบินต่างๆ ผ่านมือถือ ลดการติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ และยังมีส่วนลดร้านค้าต่างๆ ด้วย

สำหรับเครื่อง CUSS Kiosk จะเป็นอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารทำการเช็กอินด้วยตนเองผ่าน Application ของสายการบินที่ได้มีการติดตั้งไว้แล้ว รวมทั้งยังสามารถเลือกที่นั่งได้ด้วยตนเอง เพราะเครื่องจะแสดงรายละเอียดของที่นั่งได้เสมือนจริง ดูเข้าใจง่าย ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดเวลารอคิวเช็กอิน นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเช็กอินล่วงหน้าเป็นเวลา 6 - 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน) และเมื่อผู้โดยสารเช็กอินด้วยเครื่อง CUSS เรียบร้อยแล้ว สามารถนำกระเป๋าสัมภาระโหลดผ่านเครื่อง CUBD ได้ด้วยตนเอง



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)




กำลังโหลดความคิดเห็น