อิเกีย ฉลองครบ 10 ปี ในประเทศไทย สร้างแรงบันดาลใจและจัดสรรทุกพื้นที่ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น พร้อมก้าวสู่ทศวรรษใหม่ ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การออกแบบที่ใส่ใจทุกแง่มุม (Democratic Design) สินค้าราคาลดลงกว่าเดิม (Even Lower Price: ELP) ความยั่งยืน กลยุทธ์การตลาดระดับโลกที่เข้าใจความต้องการท้องถิ่น และการเจาะกลุ่มลูกค้า B2B ผ่าน IKEA For Business เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นปีละ 5%
อิเกีย เปิดให้บริการครั้งแรกในไทยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท อิคาโน่ รีเทล ซึ่งเป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อิเกีย ได้รับการตอบรับจากชาวไทยเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สโตร์เฉลี่ย 13,000 ราย/วัน ในวันธรรมดา และเฉลี่ย 33,000 ราย/วัน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์อิเกียเฉลี่ย 80,000 ราย/วัน และมีจำนวนสมาชิก IKEA Family มากกว่า 800,000 ราย
ทอม ซูเทอร์ ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางใหญ่ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจของอิเกียที่ทุกแฟรนไชส์ และทุกสโตร์ทั่วโลกยึดมั่นร่วมกัน คือ สรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนทั่วไปในทุก ๆ วัน ซึ่งรวมถึงลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และซัพพลายเออร์ของเรา สำหรับประเทศไทย เราได้นำแรงบันดาลและรูปแบบการทำธุรกิจสไตล์สวีเดน เข้ามาปรับใช้ร่วมกับการทำความเข้าใจถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในประเทศไทย เพื่อให้อิเกียสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็นำความรู้ และแนวคิดสากลเข้ามาช่วยยกระดับการใช้ชีวิตในบ้าน รวมถึงการเริ่มต้นธุรกิจสำหรับลูกค้า B2B ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น สำหรับในทศวรรษต่อๆ ไป อิเกีย ประเทศไทย จะเดินหน้าขยายฐานลูกค้า พัฒนาบริการรูปแบบใหม่ๆ สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นทั้งที่สโตร์และออนไลน์ ขยายการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงรักษาความเป็นแบรนด์ในดวงใจที่ทุกคนนึกถึงในเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งบ้าน การนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา และการมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนและโลกที่ดียิ่งขึ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ในอนาคต
5 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนอิเกีย ประเทศไทย ได้แก่
- การออกแบบที่ใส่ใจทุกแง่มุม (Democratic Design)เป็นหลักปฏิบัติในการทำงานของอิเกียทั่วโลก ประกอบด้วย 5 แนวคิด 1. รูปทรง (Form) เพื่อโลกที่สวยงามและน่าอยู่ 2. ประโยชน์ใช้สอย (Function) เพื่อชีวิตประจำวันที่สะดวกสบายและเปี่ยมความหมาย 3. คุณภาพ (Quality) เพื่อความคงทนและยิ่งใช้งานยิ่งสวยงาม 4. ความยั่งยืน (Sustainability) รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 5. ราคาย่อมเยา (Low Price) เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้
- สินค้าราคาลดลงกว่าเดิม(Even Lower Price: ELP) การลงทุนด้านราคาอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆ ปี อิเกียจะคัดสินค้ายอดนิยมมาปรับลดราคาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่คุณภาพคงเดิม ด้วยหลักการยิ่งซื้อมากเรายิ่งลดราคาให้มาก โดยในปีงบประมาณ 2565 (กันยายน 2564 - สิงหาคม 2565) อิเกีย ประเทศไทย ลงทุนกว่า 150 ล้านบาทเฉพาะในหมวดของสินค้าราคาลดลงกว่าเดิม เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้ใช้สินค้าที่ดีในราคาย่อมเยา มีมากกว่า 600 รายการ รวมถึงโซฟา ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมของคนไทย
- ความยั่งยืน (Sustainability) เป็น DNA ของแบรนด์อิเกีย ที่จะคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกๆ กระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้วัสดุ การให้บริการและดำเนินงานต่างๆ ในสโตร์ ภายใต้แนวคิด We do our part. You do your part! โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อิเกีย ประเทศไทย สามารถประหยัดพลังงานและเงินได้ถึง 34 ล้านบาทจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และมีอัตราการรีไซเคิลขยะในสโตร์มากกว่า 70%
- กลยุทธ์ตลาดระดับโลกที่เข้าใจความต้องการท้องถิ่น (Global marketing locally relevant)อิเกีย ได้ทำเข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวไทย และรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้าน ผ่านการเยี่ยมชมบ้าน (Home Visit) และจากความคิดเห็นจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับแผนการตลาด และการให้บริการต่างๆ โดยผสมผสานความเป็นไทยและสไตล์สวีเดนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกร่วมและเข้าถึงลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เรียกได้ว่ามีความเรียบง่ายแบบสวีเดนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทย (Swedish in name, Thai at heart)
- ขยายฐานลูกค้าB2B ผ่าน IKEA For Business นำเสนอโซลูชั่นครบวงจร รวมถึงบริการให้คำปรึกษา ออกแบบและตกแต่งภายใน สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด ให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นธุรกิจในฝันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ภายในงบประมาณที่ตั้งไว้
|
|