สยามเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในทุกศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ ตอกย้ำการเป็น The Ideaopolis หรือเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ประกาศความมุ่งมั่นในนโยบายด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equality & Inclusion) โดยมีจุดยืนของสยามเซ็นเตอร์ คือการเป็น DiversCity Building สถานที่ที่เป็นศูนย์รวมคอมมูนิตีและให้ความสำคัญต่อผู้คนที่มีความหลากหลายในทุกด้าน เช่น เพศ เชื้อชาติ สุขภาพ อย่างเท่าเทียม พร้อมนำเสนอเทรนด์และประสบการณ์แปลกใหม่ ระดมแม็กเน็ตดึงดูดใจทั้งเหล่านักชอปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยไฮไลต์ใหม่ล่าสุดสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแบบ Absolute Siam
ประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building
นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เป็นเดสติเนชันที่คนทั่วโลกให้ความสนใจในฐานะศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทยที่นำเสนอความล้ำเทรนด์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 47 ปี เป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่สร้างสีสันและแรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เป็นผู้นำเสนอเทรนด์ที่ก้าวล้ำไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระแสความสนใจของคนทั่วโลก ไลฟ์สไตล์ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งจากหลากหลายปัจจัย เช่น การพัฒนาเทคโนโลยียุคดิจิทัลที่ไม่หยุดยั้ง แนวความคิดของคนที่ต่างเจเนอเรชันที่ต้องอยู่ร่วมกัน รวมทั้งจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก
เพื่อตอกย้ำการเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ วันนี้ สยามเซ็นเตอร์จึงประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building (Diversity + City) สถานที่แห่งการส่งเสริมและสร้างคุณค่าทุกความต่าง ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม โดยเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมโดยการสนับสนุนของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) องค์กรระดับโลกที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนตามหลักธรรมาภิบาลในทุกด้าน ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งสยามเซ็นเตอร์นับเป็นศูนย์การค้าแรกในประเทศไทยที่ร่วมกับ UNDP ในการประกาศตัวเป็น DiversCity Building โดยเจตนารมณ์และแนวคิดนี้จะอยู่ในทุกมิติของสยามเซ็นเตอร์ที่ลูกค้าจะสัมผัสได้ด้วยตนเอง
การนำเสนอแนวคิดการเป็น DiversCity Building ของสยามเซ็นเตอร์ ปรากฏอยู่ในทุกมิติสอดคล้องกับเทรนด์ของคอมมูนิตีซึ่งปัจจุบันสามารถจัดได้เป็น 4 คอมมูนิตีหลักที่ไม่มีการแบ่งเพศ อายุ เชื้อชาติ รูปร่าง ฯลฯ ได้แก่ กลุ่มคนที่สนใจด้านความงาม ที่ไม่ว่าจะเป็นคนสีผิวแบบไหน อายุ หรือเพศอะไร ก็สามารถมาที่นี่ได้, กลุ่มคนรักแฟชั่นมีสไตล์ ไม่ว่าจะมีรูปร่าง สีผิวอย่างไร เพศ อายุไม่สำคัญ ขอแค่มีอินเนอร์ที่ใช่ ที่สยามเซ็นเตอร์มีสินค้าแฟชั่นที่เหมาะสำหรับทุกคน, กลุ่มคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมแอ็กทีฟ มีความกระฉับกระเฉง ตื่นตัวกับทุกแอ็กทิวิตี สนุกสนานไปกับการเลือกเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมตช์ แหล่งรวมตัวของเหล่าคอลเลกเตอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบของสะสมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกลุ่มผู้ชื่นชอบอาหารและคาเฟ่แบบอินเทรนด์ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เพศไหน แค่รู้เพียงว่าเมื่อต้องการหาของอร่อย อินเทรนด์ อัปรูปลงโซเชียล อาหารฮอตฮิตยอดนิยม คาเฟ่ไหนมาแรงต้องมาที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น
เปิด New Magnets แบรนด์ดังที่เข้ามาร่วมนำเสนอเทรนด์สุดล้ำ
นางณริสาห์ วิวัฒนกิจเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มงานขาย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ สยามเซ็นเตอร์ให้ความสำคัญในการเป็นผู้นำแห่งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และไม่หยุดนิ่งในการสรรหาและรังสรรค์ไอเดียใหม่ๆ มานำเสนอแก่ผู้บริโภค เราเข้าใจความต้องการของผู้ที่อยู่ในคอมมูนิตีที่มีความสนใจต่างกัน ลูกค้าในยุคใหม่ไม่ได้สนใจเพียงสินค้าและบริการ แต่ยังต้องการใช้ชีวิตและมีไลฟ์สไตล์ที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนในคอมมูนิตีของตนเอง สยามเซ็นเตอร์จึงให้ความสำคัญในการนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์คอมมูนิตีที่มีอยู่หลากหลาย โดยร่วม Co-Creation กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ โดยไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สยามเซ็นเตอร์สร้างสีสันด้วยการดึงแม็กเน็ตใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากคอมมูนิตี้ได้แก่
• KIKO Milano แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในประเทศไทยที่สยามเซ็นเตอร์ ตอบโจทย์คอมมูนิตีที่ชื่นชอบสินค้ากลุ่มบิวตี้ KIKO Milano เป็นแบรนด์สุดฮอตส่งตรงจากมิลาน เมืองหลวงแห่งวงการแฟชั่นโลกที่สาวๆ ทั่วโลกต่างหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี อินฟลูเอนเซอร์ ไปจนถึงเมกอัพอาร์ติสท์ชื่อดัง ให้สาวๆ ได้ค้นพบและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ความงามเหนือระดับในราคาที่ซื้อหาได้ พร้อมรับบริการพิเศษไปกับเหล่าเมกอัพกูรูผู้ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ให้สนุกไปกับโลกของสีสันและความงาม พร้อมเลือกซื้อคอลเลกชันใหม่ๆ ได้ที่นี่ก่อนใคร
• FABLAB Multi Brand Store แหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่จะทำให้ทุกคนได้มาทดลองค้นหาสไตล์ที่เป็นของตัวเอง และสนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ FABLAB เป็นเหมือนห้องปฏิบัติการที่รวบรวมแบรนด์แฟชั่นออนไลน์สดใหม่ และยังก์ดีไซเนอร์ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันมาไว้ด้วยกัน เป็นร้านมัลติแบรนด์ที่รวมเสื้อผ้า แอ็กเซสซอรี เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้ามากมาย ครอบคลุมแฟชั่น 4 สไตล์ ทั้ง Street สินค้าสไตล์สตรีทแฟชั่นตั้งแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ งาน Hand-made ต่างๆ, Every Day สินค้าใส่ง่ายที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ในทุกๆ วัน, Active สินค้าสำหรับการออกกำลังกาย และชุดว่ายน้ำ และ Boutique สินค้าสำหรับวันพิเศษหรือโอกาสพิเศษ ประเภทเดรส สูทที่ระดับคัตติ้งสูงขึ้นมา
THE GUNDAM BASE THAILAND แฟล็กชิปสโตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เอาใจคอมมูนิตีคนรักและนักสะสมหุ่นกันดั้มโดยเฉพาะ โดยสยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับ บริษัท บันได นัมโค เอเชีย จำกัด และบริษัท ดรีมทอย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายของเล่นและโมเดลสะสมภายใต้แบรนด์ BANDAI จากประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ร่วม Co-Create สร้างสุดยอดปรากฏการณ์ เปิด “THE GUNDAM BASE THAILAND” ออริจินัลแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่คือออริจินัลตัวจริงเสียงจริงของ THE GUNDAM BASE ท็อปเดสติเนชันในประเทศญี่ปุ่นที่สาวกกันดั้มต้องไปเยือน และวันนี้สยามเซ็นเตอร์นำเสนอเซอร์ไพรส์พิเศษสุดสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำมาเปิดร้านที่ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ บนพื้นที่กว่า 360 ตารางเมตร ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ จุใจกับสินค้าลิมิเต็ดอีดิชัน โดยที่ผ่านมา THE GUNDAM BASE เปิดให้บริการทั่วโลก 15 สาขา และ Bandai Spirits เลือกสยามเซ็นเตอร์เป็นสถานที่เปิดตัวสาขาล่าสุด เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• Vans Flagship Store สาขาแรกที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยขนาดพื้นที่ 320 ตารางเมตร ที่เข้ามาร่วมในคอมมูนิตีสำหรับกลุ่มคนรักสตรีทสไตล์และเหล่าแฟนสนีกเกอร์ใจกลางสยาม ที่ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ ด้วยสินค้าสตรีทสไตล์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ถุงเท้า และรองเท้า นอกจากนี้ยังมีสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะที่นี่ในแบบ Absolute Siam รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงออกถึงความสามารถทางด้านศิลปะ สตรีทกราฟิกให้กับ Vans ประเทศไทย ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ 2 จอกลางร้าน ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีโซน customization area ให้ลูกค้าสามารถนำสินค้า Vans มาตกแต่ง เพนต์ ป้าย ปัก ให้เป็นสไตล์ตัวเองสุดยูนีค โดยจะเปิดให้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในเดือนธันวาคม 2564 นี้
• KFC New Concept @ Siam Center ปรากฏการณ์แห่งการ Co-Create ระหว่าง KFC กับ สยามเซ็นเตอร์ นำเสนอร้าน KFC รูปแบบใหม่บนพื้นที่ 237 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Urban Digital Life ด้วยการออกแบบตกแต่งดีไซน์ทันสมัยในแบบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ลดการสัมผัส สอดคล้องกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่นิวนอร์มัล ให้ทุกคนสนุกสนานกับการออเดอร์อาหารผ่านระบบดิจิทัล และจ่ายเงินโดยไม่ต้องใช้เงินสด (Cashless) พร้อมบริการเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ตามช่วงเวลาที่กำหนด เติมความพิเศษกับ Pick Up Box ล็อกเกอร์รับสินค้าอัตโนมัติที่แรกในเมืองไทย เพียงสั่งสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน หรือ เครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ก็สามารถมารับสินค้าด้วยตนเองได้ที่ Pick Up Box เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีมุมป็อปอาร์ตคัลเจอร์ ให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับอาหารจานโปรดพร้อมดื่มด่ำไปกับผลงานศิลปะที่ตกแต่งภายในร้านให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย โดยจะเปิดต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขในเดือนธันวาคม 2564 นี้
ชูแนวคิดธุรกิจแบบ Micro Retail เจาะกลุ่มคอมมูนิตี
นายเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกิจกรรมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มีชีวิตวิถีใหม่ในยุคสมัยปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบโควิดที่ทำให้ภาคธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง เทรนด์ที่กำลังมาแรงในธุรกิจค้าปลีก คือการหันมานำเสนอรูปแบบค้าปลีกที่ตอบสนองความต้องการของคอมมูนิตีที่มีความสนใจในเรื่องเฉพาะกลุ่ม เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างคอมมูนิตีและสร้างประสบการณ์ได้อย่างตรงใจ สยามเซ็นเตอร์จึงชูแนวคิดการทำธุรกิจแบบ Micro Retail ส่งเสริมพันธมิตรธุรกิจที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้ามามีโอกาสนำเสนอผลงานและไอเดียผ่านพื้นที่โชว์เคสที่สยามเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มคอมมูนิตีที่มีหลากหลายซึ่งจะมีความสนใจให้สิ่งต่างๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยประเดิมคอนเซ็ปต์แรกด้วย K- Culture Market จับกลุ่มตลาดคอมมูนิตีผู้ชื่นชอบโคเรียนสไตล์ เนรมิตพื้นที่ให้เป็นโซน Korean Town ยกขบวนทั้งสินค้าแฟชั่น บิวตี้ ซาลอน สไตล์เกาหลี มารวมไว้ในที่เดียว รวมไปถึงคาเฟ่สไตล์เกาหลีที่ฮอตฮิตอยู่ในกระแส ให้สาวกเค-ป็อปได้มานั่งชิล ตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ที่ K- Culture Market ทุกอย่างจะต้องเป็นของอินเทรนด์ เป็นศูนย์รวมความเป็นสิ่งที่กำลังฮอตฮิตได้รับความนิยมสูงนำมาอยู่เป็นที่แรก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในควอเตอร์แรกของปี 2565 ที่จะถึงนี้
“สยามเซ็นเตอร์เชื่อมั่นว่าทุกเทรนด์ที่นำเสนอ ทั้งด้านการประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building และนำเสนอเทรนด์ที่ตอบโจทย์อย่างตรงใจในกลุ่มคอมมูนิตีต่างๆ ผ่านการนำเสนอร้านค้าแม็กเน็ตใหม่ๆเหล่านี้ จะเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟความเป็น Be The First และสร้างแรงบันดาลใจ Be Inspired ให้แก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกและกระตุ้นยอดขายให้สยามเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 ได้อย่างแน่นอน” นายเอกวิทย์กล่าว