นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรยางตลาด จำกัด พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ณ สหกรณ์การเกษตรยางตลาด จำกัด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับสหกรณ์การเกษตรคำม่วง จำกัด ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการคัดเลือกสหกรณ์ต้นแบบในการขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้วยระบบสหกรณ์ ระดับประเทศ ประจำปี 2564 มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหนองห้าง จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่นในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ระดับเขตตรวจราชการกรม ที่ 10,11 และ 12 ประจำปี 2564 มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับนางสีสุพัน อุทรักษ์ เกษตรกรดีเด่น สาขา “เกษตรอินทรีย์ดีเด่น” นายสมบัติ สารพัฒน์ เกษตรดีเด่นสาขา “การปฏิบัติทางที่ดีสำหรับพืช (GAP ดีเด่น)” ระดับสำนักงานวิจัยและพัฒนาเกษตรเขตที่ 3 ประจำปี 2564
นางอุไลย์ ทบวัน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์ม ระดับภาค ประจำปี 2564 จากนั้น ได้มอบกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมวิชาการเกษตร ให้กับสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วย จำกัด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกสหกรณ์นำไปปลูกเพื่อเป็นวัตถุดิบในการพัฒนายาต้านไวรัสโควิด – 19 ตามโครงการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรในสถาบันเกษตรกรของจังหวัดกาฬสินธุ์ พื้นที่เพาะปลูกรวม 10 ไร่ โดย มีแปลงปลูกฟ้าทะลายโจรของสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วย จำกัด จำนวน 5 ไร่ กล้าพันธุ์ 39,000 ต้น และสหกรณ์การเกษตรปันบุญ จำกัด จำนวน 5 ไร่ กล้าพันธุ์ 40,000 ต้น
ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ และพบปะสมาชิกสหกรณ์และผู้นำสถาบันเกษตรกร พร้อมกล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ ที่มาร่วมงาน ว่า การส่งเสริมให้สมาชิกปลูกฟ้าทะลายโจร พร้อมส่งเสริมให้มีการแปรรูป ดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยให้สหกรณ์หาช่องทางการตลาด สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันเกษตรอื่นที่มีการแปรรูปสมุนไพร ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและฟื้นฟูสมุนไพรไทยด้วย ย้ำให้สหกรณ์สร้างช่องทางการตลาดของตนเอง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ซึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ เป็นผู้ที่มีองค์ความรู้อยู่แล้ว เมื่อเข้ามาร่วมโครงการก็สามารถนำองค์ความรู้ที่ตนเองมีมาใช้ในการเกษตรได้ ทั้งการบริหารจัดการ การวางแผนการผลิต และการตลาด เมื่อได้ผลผลิตก็สามารถนำมาต่อยอดแปรรูปเพิ่มมูลค่า และสามารถสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ตลอดจนนำผลผลิตหรือสินค้าของตนเองไปจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดทำโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของสมาชิก รวมทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยพัฒนาเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงในอาชีพ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมสนับสนุนเงินทุน อุปกรณ์การตลาด เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินธุรกิจทั้งการรวบรวม แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร พัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ให้มีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ ให้ดีขึ้นต่อไป
หลังจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมและร่วมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรตามโครงการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด ได้แก่ น้ำมะม่วง เจลลี่มะม่วงน้ำดอกไม้ ของสกรณ์การเกษตรยางตลาด จำกัด มะม่วงพาสเจอร์ไรส์ ไอศกรีมมะม่วงมหาชนก ของสหกรณ์การเกษตรเก้าแสน จำกัด น้ำพริกปลาแห้ง ข้าวแต๋นน้ำแตงโม ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเขาพระนอน จำกัด และมันทอดกรอบปรุงรส ของสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วย จำกัด รวมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานและผลผลิตของเกษตรกรรุ่นใหม่ในโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตรของจังหวัดกาฬสินธุ์ อาทิ น้ำอ้อยคั้นสด ข้าวเกรียบมันม่วง ข้าวเกรียบฟักทอง ผักอินทรีย์ ผักพื้นบ้าน และเยี่ยมชมบูธแสดงสินค้าของสหกรณ์ อาทิ ผ้าไหมแพรวา จากสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกาฬสินธุ์ จำกัด ตะกร้าสานมือ จาก สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเขาพระนอน จำกัด ผักปลอดภัย จากสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด ข้าวสาร จากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. จำกัด และถุงมือเอนกประสงค์ที่ผลิตจากยางพารา จากสหกรณ์การเกษตรดงพยุง จำกัด