เมื่อนึกถึงนมไทย-เดนมาร์ค คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงนมที่มีสัญลักษณ์รูปวัวแดงแม่ลูกอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีวางจำหน่ายให้เห็นอยู่ทั่วไปตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เบื้องหลังของนมไทย-เดนมาร์คนี้ คือผลงานของการผลิตนมคุณภาพจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อ.ส.ค. พ.ศ. 2514 โดยมีวัตถุประสงค์ และมีบทบาทในการส่งเสริมการเลี้ยงโคนม และพัฒนาอุตสาหกรรมนมในประเทศไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ โดยบุคคลสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือทีมผู้บริหาร อ.ส.ค. ซึ่งปัจจุบันนำโดย นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)
นายสุชาติกล่าวถึงภารกิจหลักของ อ.ส.ค. คือการวางแผนยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนภารกิจของ อ.ส.ค. ให้เป็นไปตามแผน ซึ่งปัจจุบันแบรนด์นมไทย-เดนมาร์คยังเป็นอันดับหนึ่งในวงการนมโคไทย โดยมีการวางกลยุทธ์เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น “นมแห่งชาติ” ในปี พ.ศ. 2565 เมื่อพูดถึงแบรนด์นมไทยต้องนึกถึงนม “ไทย-เดนมาร์ค” โดย อ.ส.ค.มีหน่วยงานบริหารทุกส่วนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งเรื่องของการส่งเสริมภาคเกษตรกรโคนม การจัดการบริหารฟาร์ม ซึ่ง อ.ส.ค.ได้ช่วยเหลือให้การสนับสนุนเกษตรโคนมไทยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการคุณภาพน้ำนมดิบและผลผลิตของเกษตรกร ให้ความรู้ด้านการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกร และ อ.ส.ค.ยังเป็นศูนย์กลางรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คออกสู่ตลาดผู้บริโภค สร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กร และสร้างความยั่งยืนให้เกษตรกรโคนมไทยในระยะยาวอย่างมั่นคง
นอกจากการบริหารกิจการโคนมแล้ว อ.ส.ค.ยังให้ความสำคัญในการผลักดันส่งเสริมเกษตรกรโคนมไทย ด้วยการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม เป็นศูนย์ให้ความรู้ ช่วยเหลือ แนะนำ และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ และสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนมสู่ระดับนานาชาติได้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรโคนมรายใหม่ก้าวเข้าสู่อาชีพการเลี้ยงโคนม ตลอดจนประสานงาน และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างปศุสัตว์ ในด้านการกำจัดโรค การเลี้ยงดู การผสมเทียม อาหารและอื่นๆ สำหรับโคนมและสัตว์อื่นที่ให้น้ำนมและเนื้ออีกด้วย โดยปัจจุบันมีกลุ่มสหกรณ์โคนมที่เข้าร่วมกว่า 40 สหกรณ์ เพื่อสนับสนุนการรับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรกรโคนม
ในยุคที่เทคโนโลยีทางดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมอันทันสมัยให้เข้ากับองค์ความรู้ทางปศุสัตว์และวิทยาศาสตร์ นั่นคือ โครงการฟาร์มโคนมต้นแบบและฟาร์มโคนมพี่เลี้ยง อ.ส.ค. ที่นำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาการดำเนินงานตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ในระดับต้นน้ำ อ.ส.ค.มีฟาร์มประสิทธิภาพสูงต้นแบบ ซึ่งถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงโคนม เป็นต้นแบบในการใช้เทคโนโลยีระบบฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายเทอากาศ ระบบการกำจัดมูลโคนมอัตโนมัติ ซึ่งจะถูกนำไปตากแห้งและผลิตเป็นปุ๋ยในที่สุด การรีดน้ำนมด้วยระบบ Pipe Line เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ การวัดองค์ประกอบในน้ำนม การติดระบบติดตามสุขภาพและความพร้อมของโคนมเป็นรายตัว โดยในปัจจุบันสามารถผลิตน้ำนมได้ 13 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน ซึ่ง อ.ส.ค.ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการผลิตน้ำนมให้ได้ 20 กิโลกรัมต่อตัวต่อวันในอนาคต เพื่อให้เกษตรกรโคนมได้ผลผลิตน้ำนมดิบที่สูงขึ้น ได้น้ำนมคุณภาพดี สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนมไทยและระดับนานาชาติได้
นายสุชาติกล่าวต่ออีกว่า อ.ส.ค.ตั้งงบลงทุนสำหรับปี พ.ศ. 2564-2565 กว่า 1200 ล้านบาท ในการลงทุนสร้างระบบต้นกำลัง ระบบบรรจุผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยทั้ง 5 โรงงาน คือ โรงงานนมมวกเหล็ก (สระบุรี) โรงงานนมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) โรงงานนมภาคใต้ (ปราณบุรี) โรงงานนมภาคเหนือตอนล่าง (สุโขทัย) และโรงงานนมภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตนมในประเทศไทยเทียบเท่ามาตรฐานการผลิตระดับสากลด้วยเทคโนโลยีต่างๆ นอกจากนี้ อ.ส.ค.ยังได้มีการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย โดยให้ความสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ (Digital marketing) มากขึ้น และเตรียมจัดทำแพลตฟอร์มรวบรวมช่องทางการจำหน่ายออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว รวมไปถึงการจัดทำแหล่งการเรียนรู้เรื่องฟาร์มโคนมต้นแบบในรูปแบบ Online Learning อีกด้วย
ด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ นมไทย-เดนมาร์คเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดผู้บริโภคอีก 2 รสชาติ คือ นมยูเอชที (UHT) ไทย-เดนมาร์ค รสเผือก และไทย-เดนมาร์ค รสมะม่วงมหาชนก เพื่อเป็นการสนับสนุนผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรไทยในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของนมไทย-เดนมาร์คในช่วงปลายปี 2564 โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้คือผลผลิตน้ำนมดิบของเกษตรกรโคนมไทย ใช้ส่วนผสมของผลมะม่วงและผงเผือกสกัดจากธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งกลิ่นสังเคราะห์
นมยูเอชที (UHT) ไทย-เดนมาร์ค รสเผือก และไทย-เดนมาร์ค รสมะม่วงมหาชนก นอกจากไม่ปรุงแต่งแล้ว ความพิเศษที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้โดดเด่น แตกต่างจากการผลิตนมยูเอชทีที่ผ่านมาคือ การใช้กล่องบรรจุชนิดใหม่ Signature pack full barrier หรือกล่อง “รักเรา รักษ์โลก” ซึ่งตามปกติแล้วกล่องนมยูเอชทีทั่วไปจะมีหลายชั้น ประกอบด้วย 69% กระดาษ และ 25% พลาสติก โดยกล่องชนิดนี้ผลิตโดยใช้ต้นไม้ที่สามารถปลูกทดแทนได้ และ PE พลาสติกชีวภาพจากน้ำมันสน ซึ่งเป็นพืชที่สามารถปลูกทดแทนได้ในป่า และไม่กระทบต่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรในอัตราส่วน 6% และอะลูมิเนียม อย่างน้อย 94% เรียกได้ว่า “ไทย-เดนมาร์ค” เป็นแบรนด์แรกของเอเชียที่ริเริ่มทำกล่อง “รักเรา รักษ์โลก” ที่สำคัญคือน้ำนมดิบที่นำมาผลิตได้จากเกษตรกรโคนมไทยทั้งสิ้น และยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักษ์โลกอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นายสุชาติ ในฐานะผู้นำขององค์กร อ.ส.ค. ยังกล่าวปิดท้ายให้ข้อคิดและกำลังใจในการนำพาธุรกิจฟันฝ่าวิกฤตในช่วงนี้ โดยให้ข้อคิดว่า หัวใจสำคัญในการนำพากิจการและการสานต่อพันธกิจของ อ.ส.ค.ภายใต้ภาวะวิกฤตในปัจจุบัน คือ การไม่ถอดใจ คิดในเชิงรุก ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ มุ่งมั่นที่จะผลักดัน ส่งเสริม พัฒนาองค์กรให้มีศักยภาพและเข้มแข็งในทุกมิติ ให้ความสำคัญต่อการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ เพื่อนำพาองค์กรก้าวข้ามอุปสรรคในยุค Digital Disruption ที่เราจะหยุดนิ่งไม่ได้ แต่ต้องพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน นำมาต่อยอด ปรับตัว และหาช่องทางใหม่อย่างเชื่อมั่นว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้