ผู้จัดการรายวัน 360 - “แม็คกรุ๊ป” ปิดผลงานงวดปีบัญชี 2564 กำไรสุทธิเติบโตเกือบ 10% แตะ 446 ล้านบาท กวาดรายได้จากการขาย 3,220 ล้านบาท สวนกระแสพิษโควิด-19 หลังเดินเกมการตลาดเชิงรุก อัดแคมเปญ-โปรโมชันกระตุ้นยอดขายทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ พร้อมบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเข้มต่อเนื่อง คุมระดับ SG&A ได้ใกล้เคียงปีก่อน 43% ล่าสุดบอร์ดมีมติจ่ายปันผลอีก 20 สต./หุ้น ขึ้น XD 4 พ.ย. กำหนดจ่าย 25 พ.ย. 2564
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปีบัญชี 2564 (ก.ค. 63-มิ.ย. 64) ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 1.2% แตะ 3,220 ล้านบาท ตามการเติบโตของยอดขายช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) ที่ทำได้กว่า 389 ล้านบาท และร้านค้าปลีกตัวเอง (Freestanding Shop) 1,874 ล้านบาทเป็นสำคัญ ผลจากการเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดเชิงรุก จัดแคมเปญและโปรโมชันส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่องทางห้างสรรพสินค้า (Department Store) และซูเปอร์สโตร์ (Superstore) ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่การระบาดควบคุมสูงสุดที่ต้องทยอยปิดสาขาเป็นการชั่วคราวตามมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับสูง จากการเดินเกมกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะเจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย, สัดส่วนการขายสินค้า รวมไปถึงการบริหารช่องทางจัดจำหน่ายได้สอดคล้องเหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาอย่างลงตัว ภายใต้การบริหารจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของภาครัฐที่มีนโยบายและความเข้มข้นแตกต่างกัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ยังคงอยู่ระดับสูง 59.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 57.8% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) เพิ่มขึ้นจาก 12.7% ในช่วงเดียวกันปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 13.7% จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี โดยสามารถรักษาอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ไว้ได้ในระดับใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อนที่ราว 43%
รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ล่าสุดวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายปี 2564 เป็นเงินสดอีก 20 สตางค์ต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลทั้งปีจำนวน 55 สตางค์ต่อหุ้น หรือคิดเป็นราว 98% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้รับสิทธิปันผล) วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ ฐานะการเงินของบริษัทล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถนายน 2564 ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นทั้งหมดจำนวน 1,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจากการลดลงของสินค้าคงคลัง (Inventory) อย่างต่อเนื่องกว่า 11% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนเหลือ 1,250 ล้านบาท