ผู้จัดการรายวัน 360 - พืชกระท่อม จากยาเสพติดประเภท 5 สู่พืชเศรษฐกิจมูลค่านับหมื่นล้านบาท GTH เปิดเกมลุยรายแรก พร้อมส่งออกอเมริกา ล็อตแรก 150 ตัน ชี้ภายในปี 65 ตลาดกระท่อมไทยคึกคัก กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
นายจุลภาส เครือโสภณ ผู้ก่อตั้ง บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด หรือ GTH เปิดเผยว่า จากการปลดล็อกพืชกระท่อมที่ถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 สู่พืชเศรษฐกิจที่ไม่ผิดกฎหมายแบบ 100% จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดพืชกระท่อมได้เป็นอย่างดี เพราะเมล็ดกระท่อมไทย จัดว่าดีที่สุดในโลก
“ปัจจุบันตลาดกระท่อมที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยรักษาโรคซึมเศร้า, บำบัดยาเสพติด, เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระท่อมมีจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น อาหารเสริม ยาดม ชา เป็นต้น ขณะที่อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการส่งออกกระท่อมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่บอกว่าเมล็ดมาจากประเทศไทย รวมถึงแบรนด์ก็ใช้ชื่อไทย อย่างเช่น แบรนด์ แมงดา ที่ทำรายได้จากการส่งออกกระท่อมไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี”
ด้านนายแดน ปฐมวณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด หรือ NRF กล่าวว่า ทางบริษัทได้ร่วมกับ GTH ในการรุกตลาดพืชกระท่อม ซึ่งขณะนี้ถือว่าเราเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่มีวัตถุดิบใบกระท่อมอยู่ในมือกว่า 150 ตันที่พร้อมส่งออกภายในเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงมีพันธมิตรทั้งในรูปแบบของผู้ปลูกพืชกระท่อม โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ปลูกพืชกระท่อมมากสุดในประเทศไทย และพันธมิตรในรูปแบบ B2B ที่เราจะป้อนวัถตุดิบพืชกระท่อมให้เพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เซียงเพียวอิ๊ว ที่จะผลิตเป็น ยาดมใบกระท่อม, สมูทอี ที่จะผลิตเป็นครีมชูกำลัง รวมถึงบริษัทเครื่องดื่ม ที่จะผลิตน้ำกระท่อมชูกำลัง และบริษัทขายตรงอีกรายที่จะผลิตสินค้าเกี่ยวกับพืชกระท่อม เป็นต้น
“แผนการดำเนินงานของ NRF จะยังคงเน้นช่องทางอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืช โดยเฉพาะพืชกระท่อมที่ร่วมกับทาง GTH โดยรูปแบบการทำธุรกิจจะเป็นแบบ B2B เพราะเน้นเป็นธุรกิจอาหาร ซึ่งจากการรุกตลาดพืชกระท่อมครั้งนี้เชื่อว่าในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%” นายแดนกล่าว
นายจุลภาสกล่าวเสริมว่า พืชกระท่อมถือเป็นพืชเศรษฐกิจ และเป็นการต่อยอดเสริมไปสู่กลุ่มสินค้าประเภทต่างๆ เช่น หากเข้าไปเสริมในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง เพียงแค่ 25% ก็มีมูลค่านับหมื่นล้านบาทแล้ว แต่หากคิดเฉพาะต้นน้ำจริงๆ ปัจจุบันเรารับซื้อใบกระท่อมที่กิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งเรามีอยู่แล้ว 150 ตัน และหลังจากปลดล็อกพืชกระท่อมไปแล้ว เชื่อว่าในปี 2565 คาดว่าจะมีพืชใบกระท่อมไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยทาง GTH พร้อมรับซื้ออย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นตัวแทนจากพันธมิตรในการส่งออกสินค้าที่ผลิตจากใบกระท่อมไปยังสหรัฐอเมริกาทั้งหมด เนื่องจากมีช่องทางจำหน่ายอยู่แล้วในสหรัฐอเมริกา