“วีริศ” กำชับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่เข้าข่ายต้องจัดทำมาตรฐาน การจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต หรือ PSM ต้องทำให้ครบภายในปีนี้ เบื้องต้นมีโรงงานเข้าข่าย 321 แห่ง ตั้งเป้าปรับแผนให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง ดึงโรงงาน-ชุมชน เจ้าของพื้นที่ และผู้เชี่ยวชาญเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมประชุมออนไลน์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของประเทศไทยในยุค Covid-19 จัดโดยสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ในหัวข้อ “การป้องกันและลดอุบัติภัยร้ายแรงในโรงงานอุตสาหกรรม : เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ว่า บอร์ด กนอ.ได้ออกข้อบังคับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 โดยข้อบังคับดังกล่าวเกี่ยวกับมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (PSM) และการตรวจประเมินความปลอดภัยกระบวนการผลิตในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในปีนี้ (2564) ตั้งเป้าไว้ว่าให้โรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่เข้าข่ายต้องจัดทำมาตรฐาน PSM ประมาณ 321 โรงต้องจัดทำมาตรฐานให้ครบทุกโรง
ทั้งนี้ ข้อบังคับดังกล่าวได้กำหนดให้มีการตรวจประเมินความปลอดภัยกระบวนการผลิตในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปมีการตรวจประเมินทุก 5 ปี และโรงงานขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงให้มีการตรวจประเมินทุก 3 ปี โดยเกณฑ์ข้อบังคับ PSM แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1. ความมุ่งมั่นต่อการจัดการความปลอดภัยในกระบวนการผลิต 2. ความเข้าใจและระบุปัญหาปัจจัยความเสี่ยง 3. การบริหารความเสี่ยง และ 4. การถอดบทเรียน
“ทั้ง 4 ข้อนั้นไม่อยากให้มองว่ามาตรฐาน PSM ของ กนอ.เป็นเพียงเอกสารทางราชการ หรือการทำ ISO เท่านั้น แต่เป็นความมุ่งมั่นในการทำงานที่เน้นการมีส่วนร่วม มีการวางแผนล่วงหน้าว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นขั้นตอน และลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่าปัจจัยของความสำเร็จทุกการดำเนินงาน คือการทำงานอย่างมีส่วนร่วมจริงจัง ไม่ใช่เป็นแค่กฎหมายอยู่ในกระดาษเท่านั้น” นายวีริศกล่าว
นอกจากนี้ กนอ.ยังส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมให้เข้าสู่กระบวนการเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) โดยสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ และพัฒนาสิทธิประโยชน์ รวมทั้งมาตรการจูงใจสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) และเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของ กนอ. โดยแนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเน้นสร้างความสมดุลระหว่างปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านคุณลักษณะมาตรฐานและเกณฑ์ตัวชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศไว้ใน 5 มิติ 22 ด้าน ที่มุ่งเน้นให้ชุมชน นิคมอุตสาหกรรม และสังคมอยู่ด้วยกันแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน และเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ คุณภาพชีวิตของชุมชน รวมทั้งสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดีควบคู่ตามไปด้วย