ผู้จัดการรายวัน 360 - พรีเมียมเอาต์เลตเชียงใหม่กลับมาเปิดบริการภายใต้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ตรวจสอบ ป้องกัน ใส่ใจ พร้อมให้บริการ “Premium Outlet - We care We protect” “เพราะห่วงใย เราถึงใส่ใจและป้องกัน” ตามมาตรฐานสาธารณสุข ย้ำเพื่อความมั่นใจของลูกค้า
นอกจากเดิม การทำความสะอาดจุดสัมผัส ทั้งพื้นที่ภายนอก ร้านค้าต่างๆ ภายในเอาต์เลตที่แยกอาคารเป็นเอกเทศ ทุกๆ ชั่วโมง และพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนการเปิดให้บริการ พร้อมมาตรการต่างๆ ดังนี้
1. ลูกค้าและพนักงานทุกภาคส่วนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
2. ลงทะเบียนลูกค้าก่อนเข้าเอาต์เลตเพื่อติดตามตัวในกรณีจำเป็นในการควบคุมโรค และบันทึกประวัติที่อยู่อาศัยพนักงาน เมื่อเกิดคลัสเตอร์บริเวณใดสามารถควบคุมการมาทำงานของพนักงาน
3. ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าใช้บริการ และตรวจคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน
4. ชอปปิ้งแบบไร้เงินสด ลูกค้าสามารถชำระผ่านช่องทางโมบายล์แอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อลดการสัมผัส ส่วนพนักงานแคชเชียร์สวมใส่ถุงมือปฏิบัติงาน
5. เว้นระยะห่างกันไว้ปลอดภัยกว่า ทั้งการเข้าคิวต่างๆ การชำระเงิน และการบริการ foodcourt มีการจัดโต๊ะแบบ 1 ต่อ 1 เท่านั้น ในส่วนพนักงานห้ามรับประทานอาหารร่วมกันเด็ดขาด
6. ให้ลูกค้าเช็กลิสต์สิ่งของที่ต้องซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อประหยัดเวลาในการเลือกซื้อสินค้า และลดความเสี่ยง
7. งดการลองสวมใส่สินค้าเพื่อลดการสัมผัส
ตามที่พบว่าก่อนหน้านี้ได้มีการรายงานข่าวจากสื่อมวลชนออนไลน์ เนื่องจากมีพนักงานผู้ติดเชื้อจากที่บ้านจำนวน 3 คน ซึ่งพื้นที่อำเภอหางดงเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยง ทางพรีเมียมเอาต์เลตได้เพิ่มมาตรการระดับสูงสุด จากทั้งหมด 7 มาตรการ ในการกลับมาเปิดให้บริการ ทางพรีเมียมเอาต์เลตเชียงใหม่ได้เพิ่มมาตรการระดับสูงสุด “ตรวจสอบ ป้องกัน ใส่ใจ พร้อมให้บริการ” ประกอบด้วย
* จัดการตรวจเชิงรุกพนักงานทุกคน ตามขั้นตอนของสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่
* กักตัวผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อทั้งเสี่ยงสูง-เสี่ยงต่ำ และปิดพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
* ทำความสะอาดจุดสัมผัส ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแบบ deep clean
* ประเมินประวัติพนักงานและครอบครัว ตรวจสอบ timeline อย่างละเอียด
* ตรวจอาการข้างเคียงพนักงาน นอกจากการวัดอุณหภูมิอย่างละเอียดก่อนเข้าพื้นที่
* ตรวจ ATK (Antigen Test Kit) ก่อนการกลับเข้ามาทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานไม่นำเชื้อมาจากบ้าน
พรีเมียมเอาต์เลตเชียงใหม่ หางดง ตั้งอยู่บนที่ดิน 22-5-90 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ก่อสร้างอาคารตามใบอนุญาตทั้งหมด 39,500 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ขาย 11,300 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว จำนวน 7 อาคาร ท่ามกลางบรรยากาศ outdoor ในสถาปัตยกรรมโมเดิร์นผสมผสานล้านนา โดยแยกแต่ละอาคารออกจากกัน แต่ละอาคารแยกออกเป็นร้านค้าเอกเทศโดยจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมลดราคา จำนวน 137 ห้อง ซึ่งไม่พึ่งพาระบบสาธารณูปโภคร่วมกัน พรีเมียมเอาต์เลตทุกโครงการให้ความสำคัญต่อพื้นที่ outdoor และสถาปัตยกรรมแต่ละท้องถิ่น เป็นจุดขายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชอปปิ้ง และพักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศบนพื้นที่ outdoor กว่า 20,500 ตารางเมตร
ขณะนี้ร้านค้าทั้งหมดได้เปิดครบหมดแล้ว โดยได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอนุมัติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ท่านเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ และหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ โดยได้ยกเว้น 4 ร้านค้าที่เป็นส่วนของร้าน Timberland, Hollywood และร้านค้า Multibrand Kids Zone, Living ยังคงปิดบริการจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เพื่อความปลอดภัยสูง
สุดต่อผู้ใช้บริการ
นางรจนี บุญญารัชต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์เล็ทมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า นอกจากการขาย offline แบบ new normal แล้ว ที่ผ่านมาตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิดหลายระลอกซึ่งส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของพรีเมียมเอาต์เลตลดลงเป็นศูนย์ ทางพรีเมียมเอาต์เลตได้ปรับแผนการตลาดและการขายมายังกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น โดยจัดกิจกรรมกางเต็นท์ขายสินค้าลดราคา 70-90% บนลานจอดรถ
นอกจากนี้ พรีเมียมเอาต์เลตได้มีการจัดกิจกรรมขายออนไลน์เพื่อเลี่ยงการสัมผัสของพนักงาน และลูกค้าบนฐานแฟนเพจรวมทุกสาขากว่า 5 แสนคน โดยฐานแฟนเพจของจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนสูงสุดในบรรดาสาขาต่างๆ กว่าหนึ่งแสนคน การขยายการตลาด online และกลุ่มรับหิ้วของพรีเมียมเอาต์เลตเชียงใหม่ ด้วยสินค้าราคาถูกที่มี margin บางมากจากกำลังซื้อที่ลดลง แต่เน้นปริมาณและจำนวนชิ้นจากฐานที่กว้างขึ้นเพื่อกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจ จากยอดขายปกติของพรีเมียมเอาต์เลตเชียงใหม่ลดลงกว่า 70% การตลาด online ส่งผลช่วยให้ยอดขายภาพรวมลดลง 40%
ปัจจุบัน บริษัทเอาท์เล็ทมอลล์ จำกัด ยังคงบริหารโครงการพรีเมียมเอาต์เลตทั้งหมด 8 สาขาในเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา ชะอำ เขาใหญ่ อยุธยา กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี โดยมีสาขาอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสีแดงเข้ม และต้องปิดบริการกว่าครึ่งในช่วงโควิดหลายระลอกที่ผ่านมา โดยต้องอาศัยการตลาด online เพื่อระบายสินค้าเพียงช่องทางเดียว สำหรับสาขาภูเก็ต ได้มีโอกาสรับนักท่องเที่ยว ประกอบกับกำลังซื้อจากต่างชาติกลับมาเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีครึ่งในระหว่างโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์