xs
xsm
sm
md
lg

EGCO จ่อก่อสร้างนิคมฯ ระยองต้นปี 65 ชี้บาทอ่อนฉุดกำไรสุทธิไตรมาส 2 วูบ 70%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอ็กโก กรุ๊ปพร้อมลุยก่อสร้างนิคมฯ เอ็กโกระยองในต้นปี 2565 หลังออกแบบเสร็จในปลายปีนี้ เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิวูบ 70% มาอยู่ที่ 1,510 ล้านบาท เหตุขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากการอ่อนค่าเงินบาท

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง บนพื้นที่ 621 จังหวัดระยอง ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบโครงการ คาดว่าจะเสร็จในปลายปี 2564 และเริ่มการก่อสร้างเต็มรูปแบบได้ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากโครงการดังกล่าวได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จสิ้นแล้ว โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี หรือเสร็จสิ้นปลายปี 2565 และให้ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมทยอยเข้ามาตั้งโรงงานได้ในปี 2566

การลงทุนระยะแรก จะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานในนิคมฯ เพื่อเตรียมความพร้อมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ให้เอื้อต่อการรองรับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมลงทุนจัดตั้งโรงงานในพื้นที่ ตามเป้าหมายความร่วมมือระหว่างเอ็กโก กรุ๊ป กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ได้ลงนามสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยองเมื่อปลายปี 2563 เพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะสีเขียว (Smart & Green Industrial Estate) รองรับการลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“ขณะนี้มีเจรจาพันธมิตรต่างๆ ที่เตรียมมาลงทุน เช่น ไทย จีน อินเดีย และอื่นๆ แม้ว่าจะมีผลกระทบโควิด-19 แต่เจรจาก็ทำได้ผ่านระบบ zoom และก็มีบางรายลงไปดูพื้นที่จริง แต่ตัวนิคมฯ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรื้อถอนและออกแบบเพื่อพัฒนาเป็นสมาร์ทนิคมฯ”

นอกจากนี้ บริษัทได้เดินหน้าเจรจากับพันธมิตรที่สนใจเข้ามาลงทุนในนิคมฯ แล้วหลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และหากทุกรายที่เจรจากันอยู่ตอบรับเข้าร่วมลงทุนทั้งหมด ก็คาดว่าพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอ หากในอนาคตจะขยายเป็นเฟส 2 ก็มีโอกาสที่จะทำได้ในการจัดซื้อพื้นที่เพิ่มเติม แต่ก็ต้องประเมินสถานการณ์ในระยะต่อไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เพราะต้องรอดูความต้องการของลูกค้าจริงๆ ก่อน

โดยพันธมิตรที่จะดึงดูดเข้ามาลงทุนในนิคมฯ นั้นจะต้องตอบโจทย์การพัฒนานิคมฯ ที่มุ่งเน้นเรื่องของการเป็นสมาร์ทนิคมฯ ซึ่งจะต้องเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะที่เอ็กโก กรุ๊ปจะสร้างโรงไฟฟ้าและผลิตไอน้ำเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะต้องลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเท่าใดเพราะยังต้องรอความชัดเจนว่าลูกค้าที่เข้ามาลงทุนจะเป็นอุตสาหกรรมประเภทใดและจำนวนมีกี่ราย ซึ่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่จะเน้นไปที่พลังงานสะอาด ทั้งพลังงานทดแทน และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังมีระบบท่อก๊าซฯ ของ ปตท.รองรับอยู่แล้ว

สำหรับเงินลงทุนในนิคมฯ นั้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินหลักพันล้านบาท เพราะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น ยังไม่รวมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังต้องรอประเมินดีมานด์การใช้ไฟฟ้าที่ชัดเจนอีกครั้ง

นายเทพรัตน์กล่าวถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,510 ล้านบาท ลดลง 3,565 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะที่มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 2,095 ล้านบาท ลดลง 2,567 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกระทบทางบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาทจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท โดยบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 4,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 2564 บริษัทกำลังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและระบบสาธารณูปโภคเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง และการนำเข้าแอลเอ็นจีตามที่ได้รับใบอนุญาตจาก กกพ. รวมทั้งธุรกิจ Smart Energy Solution เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนในบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม กฟผ.เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve โดยเอ็กโก กรุ๊ป จะเน้นการต่อยอดทางธุรกิจของเทคโนโลยีด้านไมโครกริด ด้านระบบกักเก็บพลังงาน และด้านยานยนต์ไฟฟ้า


กำลังโหลดความคิดเห็น